แพลตฟอร์ม Copy Trade จะให้นักลงทุนได้เทรดตามสถานะของนักเทรดมืออาชีพ
โดยเมื่อเทรดเดอร์ลงทุนก็จะถูกจำลองไว้ในพอร์ตการลงทุนของผู้ใช้ และปูเส้นทางไปสู่การเทรดแบบพาสซีฟ ในคู่มือนี้ เราจะเปรียบเทียบแพลตฟอร์ม Copy Trade ที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน
จัดอันดับแพลตฟอร์ม Copy Trade ที่ดีที่สุด 2023
จัดอันดับแพลตฟอร์ม Copy Trade ที่ดีที่สุด ได้แก่:
- eToro – แพลตฟอร์ม Copy Trading ที่ดีที่สุดโดยรวมสำหรับปี 2023
- Bitget – กระดานเทรดคริปโตที่เติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมรองรับ Copy Trading
- Plus500 – แพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือสูง พร้อมฟีเจอร์ Copy Trading แบบใหม่
- AvaTrade – แพลตฟอร์มเทรด CFD ที่ได้รับการควบคุมซึ่งรองรับ Copy Trading
- ZuluTrade – แพลตฟอร์ม Copy Trading ชั้นนำในด้านเครื่องมือที่ปรับแต่งได้
- DupliTrade – ติดตามและคัดลอกกลยุทธ์การเทรดขั้นสูง
- NAGA – แพลตฟอร์ม Social Trading ที่ใช้งานง่ายและมีชื่อเสียง
- MetaTrader 4 – แพลตฟอร์ม Third Party ขั้นสูงพร้อมเครื่องมือ Copy Trading
- cTrader – แพลตฟอร์ม Copy Trading ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้กลยุทธ์แบบฟรีๆ
สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล
ผู้อ่านสามารถอ่านรีวิวแพลตฟอร์ม Copy Trade แบบละเอียดเพิ่มเติมได้ด้านล่าง
รีวิวแพลตฟอร์ม Copy Trade ชั้นนำ
ในการเลือก แพลตฟอร์ม Copy Trade ที่ดีที่สุด นักลงทุนก็ควรทราบว่ามีนักเทรดมากมายให้เลือกเทรดตามเช่นกัน
ต้องคำนึงถึงค่าธรรมเนียมในการ Copy Trade ตรวจสอบข้อกำหนดการลงทุนขั้นต่ำ และประเภทสินทรัพย์ใดบ้างที่รองรับ
ด้านล่าง คือรีวิวแพลตฟอร์ม Copy Trade แบบละเอียด ฉบับปี 2023
1. eToro – แพลตฟอร์ม Copy Trading ที่ดีที่สุดโดยรวมสำหรับปี 2023
eToro คือแพลตฟอร์ม Copy Trading ที่ดีที่สุดโดยรวมในตลาดอย่างเห็นได้ชัด พร้อมมีนักเทรดที่ผ่านการตรวจสอบแล้วหลายพันราย ซึ่งสามารถ Copy Trade ได้เพียงปุ่มเดียว ซึ่งก็ต่างมีนักลงทุนที่เหมาะกับเป้าหมายทางการเงินแทบทุกแบบ ทั้งยังเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์อิสลามที่ดีที่สุดซึ่งควบคุมโดยหน่วยงานทางการเงินหลายแห่งอีกด้วย
โดยมีเงินฝากขั้นต่ำที่ $200 ไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการ Copy Trade และไม่มีข้อกำหนดการจัดแบ่งผลกำไร eToro ยังโดดเด่นด้านตัวกรองมากมาย ซึ่งทำให้การค้นหานักเทรดที่เหมาะสมเป็นเรื่องกล้วยๆ
ผู้ใช้สามารถค้นหาเทรดเดอร์ตามผลการเทรดในอดีต ประเภทสินทรัพย์ ความเสี่ยง เงินขาดทุนสะสมทั้งหมด และอื่นๆ เมื่อเลือกนักเทรดและยืนยันสถานะแล้ว การลงทุนใดๆ ในอนาคตจะคัดลอกลงในพอร์ต eToro ของนักลงทุนเอง ดังนั้น เครื่องมือ Copy Trade ดังกล่าวยังเป็นการเทรดแบบพาสซีฟ โดยหากคุณเคยถามตัวเองว่าการเทรดตามเทรนด์คืออะไร? คุณก็จะพบว่าเครื่องมือ Copy Trade ของ eToro จะช่วยสร้างกลยุทธ์ที่จะเทรดตามเทรนด์นั่นเอง
โดยมีตัวเลือกเพิ่มหรือลบสินทรัพย์ในพอร์ต และนักเทรดสามารถหยุด Copy Trade ได้ทุกเมื่อ โดย eToro รองรับหุ้นและ ETF หลายพันรายการ พร้อมรองรับตลาดต่างประเทศอีกมากมาย พร้อมให้ผู้ใช้ลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ ฟอเร็กซ์ ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์
ซึ่งไม่มีค่าคอมมิชชั่นจากหุ้นและ ETF ส่วนสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ก็มีค่าธรรมเนียมที่แสนถูก โดยมีข้อกำหนดฝากขั้นต่ำเพียง $10 ส่วนการชำระเงินด้วยเงินดอลลาร์ก็ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งยังรองรับบัตรเดบิต/เครดิต, E-Wallet และการโอนเงินผ่านธนาคารด้วยเช่นกัน
eToro ยังรองรับพอร์ตการลงทุนเสมือนที่มาพร้อมกับเงิน 100,000 ดอลลาร์สำหรับการเทรดแบบจำลอง เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทดสอบโปรแกรม Copy Trade ก่อนเริ่มลงทุน พร้อมให้บริการแอพบน iOS และ Android เพื่อให้ผู้ใช้ได้ลงทุนในนักเทรดรายใหม่และตรวจสอบมูลค่าของสถานะที่เปิดอยู่
ผู้ใช้ eToro ยังสามารถเผยแพร่โพสต์ความคิดของตนเกี่ยวกับสินทรัพย์ใดๆ ได้อีกด้วย โดยผู้ใช้รายอื่นจะสามารถแสดงความคิดเห็นในโพสต์และกด ‘ชอบ’ โพสต์นั้นๆ ได้ ทั้งยังติดตามคนที่มีแนวทางเทรดเหมือนกันได้ด้วย ซึ่งนัก Day Trade หลายคนก็ถือว่า eToro คือโบรกเกอร์ Scalping ที่ดีที่สุด ในปี 2023 กันเลย
eToro ยังถูกควบคุมโดย FINRA, SEC, FCA, ASIC และ CySEC ทั้งยังใช้เวลาสมัครไม่ถึง 5 นาที ซึ่งรวมกระบวนการยืนยัน KYC อัตโนมัติแล้วเรียบร้อย
สินทรัพย์ที่รองรับสำหรับ Copy Trade
หุ้น, ETF, เหรียญคริปโต, ฟอเร็กซ์, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์
เครื่องมือ Social Trading
มี – กดไลค์, กดติดตาม, และโพสต์
ค่าธรรมเนียม
ไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับบริการ Copy Trade
การลงทุน Copy Trade ขั้นต่ำ
$200 ต่อนักเทรด
ข้อดี:
- แพลตฟอร์ม Copy Trade ที่ดีที่สุดโดยรวม
- มีนักเทรดให้เลือก Copy กว่าหลายพันราย
- มีคอมเมนต์และข้อความ ‘ถูกใจ’ จากนักเทรดคนอื่น
- การลงทุน Copy Trade ขั้นต่ำคือ $200
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการใช้เครื่องมือ Copy Trade
- เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด
- สินทรัพย์ที่รองรับ ได้แก่ หุ้น, ETF, ฟอเร็กซ์, เหรียญคริปโต, และสินค้าโภคภัณฑ์
ข้อเสีย:
- ไม่รองรับแพลตฟอร์ม Third Party เช่น MT4
สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล
2. Bitget – กระดานเทรดคริปโตที่เติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมรองรับ Copy Trading
Bitget เปิดตัวในปี 2018 และได้สร้างชื่อให้กับตัวเองในวงการคริปโตและกลายเป็นหนึ่งในกระดานเทรดคริปโตที่เติบโตเร็วที่สุด พร้อมเซ็นสัญญากับ Leo Messi ในฐานะแอมบาสเดอร์อย่างเป็นทางการ โดยรองรับทั้ง Social Trading, Copy Trade, และตลาดสปอตและฟิวเจอร์สทั้งหมด
ผู้ใช้สามารถเรียกดูลีดเดอร์บอร์ดของเทรดเดอร์ 500 อันดับแรกและเลือก Copy Trade ได้ตามต้องการ โดยเทรดเดอร์อันดับต้นๆ มีผู้ติดตามกว่า 1,000 รายพร้อม ROI (ผลตอบแทนจากการลงทุน) เกินกว่า 1,500%
นอกจาก ROI ของเทรดเดอร์ชั้นนำแล้ว ยังมี P&L ทั้งหมด (กำไรและขาดทุนหรือ PnL) ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ และ PnL ที่รวมกันของคนที่เทรดตามจะแสดงด้วย
สโลแกนของ Bitget คือการนำทำให้การ Copy Trade เป็นเรื่องง่าย โดยจะมีคำแนะนำสำหรับวิธี Copy Trade บนเว็บไซต์สำหรับมือใหม่ โดยมีกระบวนการที่เข้าใจง่าย ตั้งแต่การเลือกเทรดเดอร์ที่มีผลงานโดดเด่นและอันดับสูง ไปจนถึงการตั้งค่าตามต้องการ เช่น การควบคุมความเสี่ยง เลเวอเรจ วิธีวางออเดอร์ ราคาเป้าหมาย และอื่นๆ
Bitget เปิดให้ใช้งานในอเมริกา โดยมีใบเซอ US MSB ซึ่งควบคุมโดย FinCEN และใบเซอ MSB จากแคนาดา ทั้งยังสามารถเพิ่มกำไรด้วย Bitget รวมถึงการเทรดตามกลยุทธ์และการใช้บอทเทรดและฟีเจอร์ ‘Earn’ สำหรับรางวัล Staking และการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงประเภทอื่น ๆ
3. Plus500 – แพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือสูง พร้อมฟีเจอร์ Copy Trading แบบใหม่
Plus500 เป็นโบรกเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับและไว้วางใจอย่างมาก ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนและอยู่ในดัชนี FTSE 250
เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการเทรด CFD ชั้นนำของโลกและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCA
Plus500 เพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ Copy Trade +ข้อมูลเชิงลึก เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกแนวโน้มที่จะวิเคราะห์ โดยจะแสดงมาตราส่วนภาพพร้อมผลลัพธ์ทั้งหมด
มีตัวกรองมากมายให้เลือกเพื่อรับผลลัพธ์ที่ต้องการและมีปุ่มซื้อ/ขายบนหน้าจอเดียวกันให้ใช้งาน
Plus500 ยังให้ผู้ใช้สามารถซื้อขาย CFD ของหุ้นได้มากกว่า 2,000 รายการ พร้อมกับสกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี สัญญาสิทธิล่วงหน้า ETF และอีกมากมาย
พร้อมบริการเครื่องมือสร้างกราฟเชิงลึกพร้อมตัวชี้วัดกว่า 100 รายการและฟีดข่าวแบบเรียลไทม์
Plus500 มีแอพมือถือที่ใช้งานง่าย และมีบัญชีที่หลากหลาย รวมถึงบัญชีทดลอง
อ่านรีวิว Plus500 ฉบับเต็มที่นี่
สินทรัพย์ที่รองรับสำหรับ Copy Trade
CFD หุ้น, ฟอเร็กซ์, ETF, สินค้าโภคภัณฑ์, สัญญาสิทธิล่วงหน้า, ดัชนี
เครื่องมือ Social Trading
รองรับ – ค้นหาและวิเคราะห์ผู้ใช้รายอื่น
ค่าธรรมเนียม
ไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม – อาจมีค่าสมัครสมาชิก
การลงทุน Copy Trade ขั้นต่ำ
£100
ข้อดี:
- เป็นแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือสูง
- มีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด
- ฟีเจอร์ Copy Trade แบบใหม่
- มีเครื่องมือที่หลากหลาย
- แอพใช้ง่าย
ข้อเสีย:
- ไม่ใช่แพลตฟอร์ม MT4 หรือ MT5
79% ของบัญชีนักลงทุนรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อซื้อขาย CFD กับแพลตฟอร์มนี้
4. AvaTrade – แพลตฟอร์มเทรด CFD ที่ได้รับการควบคุมซึ่งรองรับ Copy Trading
โบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุดจากการจัดอันดับแพลตฟอร์ม Copy Trade ที่ดีที่สุดของเราคือ AvaTrade โดยเน้นไปที่ CFD ในตราสารมากกว่า 1,250 รายการ แม้จะจะไม่รองรับ Copy Trade โดยตรง แต่ก็มีการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม Third Party
ซึ่งรวมถึง ZuluTrade และ DupliTrade – โดยเราจะอธิบายเพิ่มเติมทีหลัง โดยแพลตฟอร์มทั้งสองนี้จะให้ผู้ใช้ได้วิธีเลือก Copy Trade จากนักลงทุนที่ช่ำชองด้วยปุ่มเดียว ซึ่งต้องเปิดบัญชีและฝากเงินขั้นต่ำ $100
จากนั้น เลือกแพลตฟอร์ม Third Pary และนักลงทุนที่ต้องการคัดลอก AvaTrade อาจเหมาะกับคนที่อยากใช้ Copy Trade และกลยุทธ์ของตัวเองเข้าด้วยกัน เพราะทาง AvaTrade จะให้นักลงทุนซื้อและขายตราสาร CFD ด้วยค่าคอมมิชชั่น 0% โดยมีค่าสเปรดที่ไม่แพง
ตลาดที่รองรับ ได้แก่ หุ้น ฟอเร็กซ์ เหรียญคริปโต และดัชนี และยังใช้เลเวอเรจได้ ซึ่งขีดจำกัดจะขึ้นอยู่กับประเทศของผู้ใช้และสินทรัพย์ที่ใช้เทรด พร้อมรองรับบัตรเดบิต/เครดิต และการโอนเงินผ่านธนาคาร
ข้อดีอีกอย่างของ AvaTrade คือรองรับ MT4 และ MT5 โดยจะให้การเข้าถึงเครื่องมือการเทรดที่หลากหลาย กราฟที่ปรับแต่งได้ ประเภทออเดอร์ขั้นสูง และตัวชี้วัดมากมาย พร้อมมีแอพ AvaTrade บน iOS และ Android เพื่อให้ได้ติดตามสถานะ Copy Trade และวางออเดอร์ใหม่ได้
สินทรัพย์ที่รองรับสำหรับ Copy Trade
ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์ม Third Party
เครื่องมือ Social Trading
ไม่มี
ค่าธรรมเนียม
ค่าคอมมิชชั่น 0% แต่อาจมีค่าธรรมเนียมจากแพลตฟอร์ม Third Party
การลงทุน Copy Trade ขั้นต่ำ
ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์ม Third Party
ข้อดี:
- เชื่อมต่อบัญชีกับ ZuluTrade และ DupliTrade
- ควบคุมโดยหน่วยงาน 8 แห่ง
- ฝากขั้นต่ำเพียง $100 – และไม่มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
- รองรับเลเวอเรจและการขายชอร์ต
- ใช้เวลาสร้างบัญชีไม่กี่นาที
- มีแอพมือถือยอดนิยม
ข้อเสีย:
- ไม่รองรับ Copy Trade โดยตรง
- รองรับเฉพาะ CFD เท่านั้น
5. ZuluTrade – แพลตฟอร์ม Copy Trading ชั้นนำในด้านเครื่องมือที่ปรับแต่งได้
ZuluTrade เป็นโบรกเกอร์ Social Trading ที่มีชื่อเสียง ด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายซึ่งน่าจะดึงดูดนักลงทุนมากมาย โดยเมื่อเทรดกับ ZuluTrade ผู้ใช้ก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากมาย
ซึ่งเป็นข้อมูลวิธีการเทรดของเทรดเดอร์ตั้งแต่เข้าร่วม ZuluTrade และสินทรัพย์ใดที่พวกเขามักจะทำกำไรได้ ZuluTrade ยังให้ผู้ใช้เข้าถึงเครื่องมือที่ปรับแต่งได้หลากหลาย เช่น เครื่องมืออัตโนมัติที่ให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่า Stop-loss และ Take-porfit กับนักเทรดที่คัดลอกได้
เพื่อให้เป้าหมายและความเสี่ยงที่รับได้ตรงตามสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ ทั้งยังมีเครือข่าย Social Tradingและเครื่องมือจำลองที่ให้ผู้ใช้ทดสอบประสิทธิภาพของนักเทรดได้ โดยรองรับเหรียญคริปโต หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และฟอเร็กซ์
ส่วนค่าธรรมเนียมจะขึ้นอยู่กับบัญชีที่เปิด ซึ่งมี 2 ทางเลือก คือบัญชีแบบคลาสสิกที่ให้ผู้ใช้ได้ Copy Trade โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่จะมีค่าสเปรดมากขึ้นเพื่อให้ครอบคลุม อีกทางคือบัญชีแบ่งปันผลกำไรที่มีค่าใช้จ่าย $30 ต่อเดือน
โดยไม่มีค่าสเปรดหรือค่าคอมมิชชั่นเพิ่มขึ้นมา แต่จะมีการใช้ส่วนแบ่งของการเทรดที่ทำกำไรโดยนักเทรดที่คัดลอก โซเชียลฟีดของ ZuluTrade ก็ทำงานเหมือนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่ให้ผู้ใช้ได้โพสต์ กดไลค์ และแสดงความคิดเห็นแบบสาธารณะ โดยคุณสามารถดูและค้นหาแฮชแท็กที่กำลังมาแรงเพื่อดูว่าสินทรัพย์และตลาดใดที่กำลังนิยม
สินทรัพย์ที่รองรับสำหรับ Copy Trade
ฟอเร็กซ์, หุ้น, ดัชนี, เหรียญคริปโต, สินค้าโภคภัณฑ์
เครื่องมือ Social Trading
รองรับ – ฟีดโซเชียลพร้อมโพสต์ ไลค์ และความคิดเห็น
ค่าธรรมเนียม
ฟรีสำหรับบัญชีคลาสสิก และ $30 ต่อเดือนสำหรับบัญชีแบ่งกำไร
การลงทุน Copy Trade ขั้นต่ำ
ขึ้นอยู่กับเทรดเดอร์ที่เลือก
ข้อดี:
- รองรับเหรียญคริปโต, หุ้น, ดัชนี, ฟอเร็กซ์, และสินค้าโภคภัณฑ์
- ฟีดโซเชียลที่ยอดเยี่ยม
- บัญชีแบบคลาสสิกไม่มีค่าธรรมเนียม
ข้อเสีย:
- อธิบายค่าคอมมิชชั่นไม่ชัดเจนนัก
- มีนักเทรดที่ทำกำไรได้ไม่มากนัก
- บัญชีแบ่งผลกำไรมีราคา $30 ต่อเดือน
6. DupliTrade – ติดตามและคัดลอกกลยุทธ์การเทรดขั้นสูง
DupliTrade เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์ม Copy Trade ที่ดีที่สุด โดยจะให้ผู้ใช้เข้าถึงและคัดลอกกลยุทธ์การเทรดขั้นสูงในภายหลัง ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้งความเสี่ยงและโอกาสทำกำไร ควบคู่ไปกับตลาดเป้าหมาย
ตัวอย่างเช่น กลยุทธ์ Elliott Wave ที่เน้นเฉพาะคู่ฟอเร็กซ์ EUR/USD แต่กลยุทธ์ Robust จะให้ความสำคัญกับดัชนีสูงกว่า ไม่ว่าจะแบบไหน แต่ละกลยุทธ์ก็มีภาพรวมสถิติที่ชัดเจนในด้านกำไรสุทธิในอดีต ความถี่ในการเทรด เลเวอเรจที่แนะนำ และอื่นๆ
ทว่า DupliTrade ไม่ใช่โบรกเกอร์ ซึ่งว่าจะต้องเปิดบัญชีกับผู้ให้บริการรายอื่น เช่น AvaTrade ซึ่งมีค่าคอมมิชชั่น 0% ในตลาดที่รองรับทั้งหมดและสามารถเชื่อมต่อกับบัญชี DupliTrade ได้ ซึ่งอาจเป็นข้อเสียสำหรับคนต้องการเข้าถึงบริการ Copy Trade ผ่านแพลตฟอร์มเดียว
ข้อเสียที่สำคัญคือต้องมีเงินฝากขั้นต่ำ $5,000 เพื่อใช้งานกลยุทธ์การเทรด ไม่ว่าผู้ใช้จะใช้โบรกเกอร์ใดๆ แต่ DupliTrade ก็เสนอโปรแกรมจำลองการเทรด เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลังได้ก่อนลงทุน
สินทรัพย์ที่รองรับสำหรับ Copy Trade
ฟอเร็กซ์เป็นหลัก แต่รองรับ CFD เช่นกัน
เครื่องมือ Social Trading
ไม่มี
ค่าธรรมเนียม
ไม่มี (สร้างรายได้จากโบรกเกอร์ที่ผู้ใช้เปิด)
การลงทุน Copy Trade ขั้นต่ำ
$5,000
ข้อดี:
- ติดตามกลยุทธ์ Copy Trade ขั้นสูง
- แพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับ Copy Trade ฟอเร็กซ์
ข้อเสีย:
- ฝากขั้นต่ำ $5,000 เพื่อใช้งานกลยุทธ์การเทรด
- ไม่รองรับการซื้อขายโดยตรง – จำเป็นต้องลงทะเบียนกับโบรกเกอร์
- มีกลยุทธ์ไม่มากนัก
7. NAGA – แพลตฟอร์ม Social Trading ที่ใช้งานง่ายและมีชื่อเสียง
ใครที่คิดว่าจะใช้ Copy Trade เจ้าไหนดี? เราก็ขอแนะนำ NAGA โบรกเกอร์ออนไลน์ที่ได้รับการควบคุม และไม่ต้องเปิดบัญชีกับแพลตฟอร์ม Third Party ในการใช้งานเครื่องมือ Copy Trade
โดยผู้ใช้จะได้จำลองการลงทุนของนักเทรดที่ใช้ NAGA เป็นการส่วนตัว โดยแพลตฟอร์มรองรับตลาดมากมายซึ่งรวมถึงหุ้นและ CFD ซึ่งครอบคลุมฟอเร็กซ์ เหรียญคริปโต ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และฟิวเจอร์ส
เพื่อให้ผู้ใช้ NAGA สามารถ Copy Trade นักเทรดได้มากมาย โดยค่าธรรมเนียมจะขึ้นอยู่กับว่าจำนวนเงินที่ต้องการลงทุนมีมูลค่า €10 หรือมากกว่านั้นหรือไม่ เช่น สถานะที่มีราคาต่ำกว่านั้นจะมีค่าธรรมเนียมคงที่ €0.99 โดยไม่มีส่วนแบ่งกำไร
ส่วนสถานะที่สูงกว่า €10 จะมีค่าธรรมเนียมคงที่ €0.99 เสริมกับส่วนแบ่งกำไร 5% โดยผู้ใช้ NAGA จะต้องพิจารณาค่าธรรมเนียมการเทรดร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่เทรด เช่น หุ้นจะสามารถเทรดได้โดยมีค่าคอมมิชชั่นที่ €0.99 ต่อสไลด์
เมื่อเทรดในตลาด CFD เช่น ฟอเร็กซ์ ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์ จะไม่มีค่าคอมมิชชั่น โดยผู้ใช้จะต้องจ่ายค่าสเปรดแทน ซึ่งผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานบัญชีโดยฝากเงินอย่างน้อย $250 ไม่มีค่าธรรมเนียมด้วยบัตรเดบิต/เครดิต และการโอนเงินผ่านธนาคาร
NAGA ยังเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม Social Trading ที่ดีที่สุด เพื่อดูว่าเทรดเดอร์อันดับสูงสุดกำลังทำอะไรได้แบบเรียลไทม์ และยังเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาดจากนักลงทุนที่คัดสรรมาอย่างดี โดยผู้ใช้จะสามารถแบ่งปันการเทรดที่ประสบความสำเร็จไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้ และยังกดไลค์และแสดงความคิดเห็นในโพสต์ได้อีกด้วย
สินทรัพย์ที่รองรับสำหรับ Copy Trade
หุ้น, CFD, ฟอเร็กซ์, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, ETF
เครื่องมือ Social Trading
รองรับ – ฟีดโซเชียลเทรดที่ละเอียดพร้อมฟีเจอร์มากมาย
ค่าธรรมเนียม
€0.99 ต่อการเทรด ค่าคอมมิชชั่น 5% จากกำไรสูงกว่า €10
การลงทุน Copy Trade ขั้นต่ำ
แนะนำที่ $250
ข้อดี:
- ฟีเจอร์โซเชียลให้ติดตามผู้ใช้รายอื่นได้แบบเรียลไทม์
- เมื่อโซเชียลเทรดหุ้น ผู้ใช้จะเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นๆ
ข้อเสีย:
- ค่าคอมมิชชั่น 5% จากกำไร €10 หรือมากกว่า
- ค่าคอมมิชชั่น €0.99 ทุกครั้งที่มีการคัดลอกตำแหน่ง
- ไม่เปิดบริการในอเมริกาและอังกฤษ
- นักเทรดที่ได้รับการยืนยันมีน้อยกว่า eToro
- ค่าธรรมเนียมไม่ชัดเจน
8. MetaTrader 4 – แพลตฟอร์ม Third Party ขั้นสูงพร้อมเครื่องมือ Copy Trading
MetaTrader 4 (MT4) เป็นแพลตฟอร์ม Copy Trade แบบ Third Party ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะกับคนที่ต้องการเก็งกำไรในฟอเร็กซ์แบบขั้นกว่า พร้อมให้บริการบน MT4 คอมพิวเตอร์และมีเครื่องมือสร้างกราฟและตัวชี้วัดมากมาย
ทั้งยังให้บริการ Copy Trade ที่ให้ผู้ใช้สามารถคัดลอกสถานะของนักลงทุนที่เลือกได้โดยอัตโนมัติ โดยจะปล่อยสัญญาณ Copy Trade โดยแพลตฟอร์ม Third Party และยังผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลกลยุทธ์เฉพาะ, ผลตอบแทนที่ผ่านมา, เงินขาดทุนสะสม และอื่นๆ ได้อีกด้วย
ซึ่งค่าธรรมเนียมจะกำหนดโดยคนที่สร้างกลยุทธ์ โดยทั่วไปจะเรียกเก็บเป็นรายเดือน เฉลี่ยอยู่ที่ 20-40 ดอลลาร์ โปรดทราบว่า MT4 ไม่ใช่โบรกเกอร์ จึงจำเป็นต้องเปิดบัญชีกับกระดานเทรดอื่นเพื่อใช้ฟีเจอร์ดังกล่าว ทำให้ Avatrade เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม เพราะเสนอค่าคอมมิชชั่นเพียง 0% จากตลาดกว่า 1,250 แห่ง
สินทรัพย์ที่รองรับสำหรับ Copy Trade
ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ Third Party
เครื่องมือ Social Trading
ไม่มี
ค่าธรรมเนียม
กำหนดโดยคนสร้างกลยุทธ์
การลงทุน Copy Trade ขั้นต่ำ
ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ Third Party
ข้อดี:
- รองรับการเทรดระดับสูง
- เสนอกลยุทธ์การซื้อขายผ่าน Third Party ที่สามารถคัดลอกได้
ข้อเสีย:
- ไม่ได้เป็นแพลตฟอร์ม Copy Trade แบบดั้งเดิม
- ไม่มีฟีเจอร์ Social Trading
- จำเป็นต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่รองรับ MT4
9. cTrader – แพลตฟอร์ม Copy Trading ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้กลยุทธ์แบบฟรีๆ
cTrader เป็นคู่แข่งของ MT4 เพราะนำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดขั้นสูงสำหรับมืออาชีพ ซึ่งครอบคลุมถึงตัวบ่งชี้และคำสั่งซื้อที่กำหนดเองไปจนถึงกราฟราคาจริงและตัวเลือกในการ Copy Trade ซึ่งโฮสต์บน cTrader และสร้างขึ้นโดยแพลตฟอร์ม Third Party
แม้หลายๆ กลยุทธ์จะมีค่าธรรมเนียม แต่บางกลยุทธ์ก็ไม่มีเลย พร้อมบัญชีทดลองเทรดแบบฟรีๆ ให้ผู้ใช้ได้ทดสอบกลยุทธ์ได้ฟรีอย่างเต็มที่เพื่อประเมินว่าสามารถทำกำไรได้หรือไม่ โดยกลยุทธ์สามารถแก้ไขได้เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของผู้ใช้
cTrader ไม่มีบริการโบรกเกอร์โดยตรง ซึ่งหมายความว่าผู้จะต้องดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มที่มีการควบคุม เช่น AvaTrade นแปลว่าค่าธรรมเนียมการเทรดและค่าคอมมิชชั่นจะไม่ถูกกำหนดโดย cTrader แต่จะกำหนดโดยเว็บไซต์โบรกเกอร์ที่เลือกนั่นเอง
สินทรัพย์ที่รองรับสำหรับ Copy Trade
ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ Third Party
เครื่องมือ Social Trading
ไม่รองรับ – แต่มีฟอรัมสำหรับผู้ใช้ที่ลงทะเบียน
ค่าธรรมเนียม
มีทั้งทั้งกลยุทธ์ฟรีและจ่ายเงิน
การลงทุน Copy Trade ขั้นต่ำ
ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ Third Party
ข้อดี:
- กระดานเทรดแบบ Third Party สำหรับนักลงทุนที่ช่ำชอง
- มีกลยุทธ์ฟรีมากมายที่สามารถคัดลอกได้
- มีบัญชีทดลองเทรดหุ้นฟรี
ข้อเสีย:
- ไม่ให้บริการโบรกเกอร์
- กลยุทธ์ที่ดีที่สุดมีค่าใช้จ่าย
- ไม่มีเครื่องมือการเทรดทางโซเชียลอื่นนอกจากฟอรัม
Copy Trade คืออะไร?
Copy Trade คือคอนเซ็ปต์ที่ให้ผู้ใช้สามารถ ‘คัดลอก’ การเทรดของนักลงทุนที่มีประสบการณ์ เพื่อเทรดได้โดยไม่ต้องศึกษาหรือวางคำสั่งซื้อใดๆ โดยเมื่อเทรดเดอร์ที่เลือกลงทุนก็จะคัดลอกลงในพอร์ตของผู้ใช้เอง
โดยวิธีการทำงานของ Copy Trade จะขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่เลือก โดยนี่เป็นเพียงตัวอย่างสั้นๆ ของการ Copy Trade ที่ประสบความสำเร็จเพื่อคลายความสงสัยของคุณ:
- สมมติว่าผู้ใช้สมัคร eToro และลงทุน $2,000 ในนักเทรดหุ้นมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จ
- นักเทรดจัดสรร 25% ของพอร์ตลงในซื้อหุ้น Amazon
- ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จะลงทุนใน Amazon โดยอัตโนมัติด้วยเงิน 500 ดอลลาร์ (25% ของการลงทุน 2,000 ดอลลาร์)
- ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เทรดเดอร์ขายสถานะหุ้น Amazon ที่กำไร 20%
- ผู้ใช้ eToro ก็จะขายสถานะโดยอัตโนมัติ พร้อมทำกำไร $100 (20% ของ $500)
ตัวอย่างข้างต้นแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้สามารถเทรดหุ้น Amazon ได้โดยไม่ต้องอะไร Copy Trade จึงเป็นการลงทุนแบบพาสซีฟอย่างสมบูรณ์
ซึ่งส่วนที่กินเวลามากที่สุดก็คงจะเป็นการเลือกเทรดเดอร์ที่เหมาะสม เราจึงคิดว่า eToro เป็นแพลตฟอร์ม Social Trading ที่ดีที่สุดในตลาด เพราะมีตัวกรองการค้นหาที่หลากหลาย
ผู้ใช้ eToro สามารถค้นหานักเทรดที่เหมาะสมได้โดยการตรวจสอบ ROI ในอดีต ระดับความเสี่ยง หรือประเภทสินทรัพย์ที่ต้องการ และอื่นๆ ได้แก่ เงินขาดทุนสะสมรายสัปดาห์และรายเดือน ควบคู่ไปกับระยะเวลาการเทรดเฉลี่ย
อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทราบเมื่อเลือกแพลตฟอร์ม Copy Trade ที่ดีที่สุดคือส่วนเว็บก็เสนอบริการแบบครบวงจร ส่วนบางแพลตฟอร์มก็ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม Third Party ซึ่ง eToro ถือเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุม พร้อมบริการ Copy Trade โดยตรงบนแพลตฟอร์ม
ส่วน MT4 และ cTrader คือแพลตฟอร์มเทรด Third Party ซึ่งจะให้ผู้ใช้เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์เพื่อใช้งานเครื่องมือ Copy Trade
วิธีเลือกแพลตฟอร์ม Copy Trade ที่ดีที่สุด
มีหลายอย่างที่ต้องพิจารณาในการเลือกแพลตฟอร์ม Copy Trade ที่ดีที่สุด ซึ่งควรคำนึงถึงจำนวนนักเทรดที่สามารถคัดลอกได้และค่าธรรมเนียม
โดย NAGA เสนอกลุ่มนักลงทุนจำนวนมากที่สามารถคัดลอกได้ ซึ่งจะมีค่าคอมมิชชั่น 5% เมื่อทำกำไรตั้งแต่ 10 ยูโรขึ้น แต่ eToro จะไม่คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเมื่อใช้เครื่องมือ Copy Trade
โดยค่าคอมมิชชั่นของนักเทรดจะจ่ายโดย eToro แทน และควรคำนึงถึงข้อกำหนดการลงทุนขั้นต่ำร่วมด้วย
eToro ข้อกำหนดขั้นต่ำอยู่ที่เพียง $200 ต่อเทรดเดอร์ ส่วน DupliTrade ต้องฝากเงินขั้นต่ำที่ 5,000 ดอลลาร์ ซึ่งอาจจะเข้าถึงได้ยากเกินไป โดยเฉพาะกับมือใหม่
ซอฟต์แวร์ Copy Trade
บางแพลตฟอร์มยังมีซอฟต์แวร์ Copy Trade ให้โหลดบนเดสก์ท็อปและแล้วเชื่อมต่อกับบอทเทรดแบบ Third Party
MT4 ถือว่าโดดเด่น เพราะสนับสนุนเต็มรูปแบบสำหรับบอทเทรดผ่านซอฟต์แวร์ Copy Trade แต่มือใหม่อาจชอบ eToro ซึ่งไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์ Copy Trade ใดๆ
แต่ผู้ใช้จะสามารถใช้เครื่อง Copy Trade บน eToro ได้ผ่านหน้าเว็บไซต์ของแพลตฟอร์มแทน
Social Trading คืออะไร?
Social Trading คืออีกฟีเจอร์ที่เปิดบริการในแพลตฟอร์มชั้นนำมากมาย โดยผู้ใช้จะสามารถเทรดได้บนโซเชียลเหมือนกับ LinkedIn หรือ Facebook
สมมติว่าผู้ใช้อยากซื้อบิทคอยน์และแชร์ความคิดว่าทำไมจึงลงทุน ผู้ใช้คนอื่นๆ ก็จะสามารถเห็นโพสต์และสามารถกดถูกใจหรือแสดงความคิดเห็นได้
eToro – ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์ม Social Trading ที่ดีที่สุดยังให้ผู้ใช้ได้ติดตามนักเทรดที่ต้องการ โดยเมื่อเทรดเดอร์เปิดสถานะใหม่หรือมีโพสต์ใหม่ ผู้ใช้จะได้รับแจ้งเตือน
นั่นก็เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยสามารถแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกของตลาดในแบบขยายและรักษาการทำกำไรในพอร์ต
และส่วนใหญ่ แพลตฟอร์ม Social Trading ที่ดีที่สุดยังให้ผู้ใช้ Copy Trade นักลงทุนรายอื่นๆ ได้ผ่านแพลตฟอร์มเดียว
Copy Trade ทำกำไรได้หรือไม่?
ใครสงสัยว่า Copy Trade ดีไหม? ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่าการทำกำไรนั่นจะขึ้นอยู่กับนักเทรดที่เลือกทั้งหมด เช่น หากผู้ใช้ลงทุน $1,000 กับเทรดเดอร์เป็นเวลา 12 เดือน และในช่วงนี้ได้ทำกำไร 70% คิดเป็น $700 แต่หากเทรดเดอร์รายเดียวกันนี้ขาดทุน 20% ผู้ใช้ก็จะเสียเงิน $200
ดังนั้น การเลือกเทรดเดอร์ที่เหมาะสมจึงสำคัญ และเพราะเทรดเดอร์เคยทำกำไรได้ก่อนหน้านี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตจะขาดทุนเลย
เนื่องจากตลาดการเงินมีความผันผวนและมีเคลื่อนไหวแบบเป็นวัฏจักร วิธีที่ดีในการลดความเสี่ยงก็คือการกระจายความเสี่ยงนั่นเอง
เช่น eToro จำเป็นต้องฝากขั้นต่ำ $200 สำหรับเทรดเดอร์หนึ่งคน ซึ่งการลงทุนที่ $1,000 จะให้ผู้ใช้ได้กระจายความเสี่ยงลงในนักเทรด 5 ราย หากเทรดเดอร์คนใดทำกำไรไม่ได้ ก็มีโอกาสที่คนอื่นจะทำกำไรได้อยู่นั่นเอง
นักเทรดที่น่า Copy Trade มากที่สุด
เราได้รวบรวมนักเทรดที่น่า Copy Trade มากที่สุดบน eToro โดยอิงจากตัวชี้วัดมากมาย ซึ่งรวมถึงสินทรัพย์ที่เทรดเดอร์เชี่ยวชาญ ประสิทธิภาพในอดีตตั้งแต่เข้าร่วม eToro และการระดับความเสี่ยงของคนนั้นๆ
ด้านล่างนี้ คือนักเทรดที่ดีที่สุด 5 รายที่ควร Copy Trade ในตอนนี้:
1. Jeppe Kirk Bonde – นักเทรดที่ดีที่สุดโดยรวมในการ Copy Trade
ใครที่กำลังมองหาเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดก็ไม่ควรมองข้าม Jeppe Kirk Bonde เพราะสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 28% นับตั้งแต่เข้าร่วม eToro ในปี 2013 แปลว่าหากลงทุน $2,000 ใน Jeppe Kirk Bonde ในปี 2013 ก็จะได้กำไรประมาณ 800%
ตัวอย่างเช่น ในปี 2019 เขาทำกำไรได้ 45% ส่วนปี 2020 อยู่ที่ 36% ถือว่าน่าประทับใจโดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าปี 2020 เป็นปีที่เกิดวุ่นวายมากมายในตลาดการเงินจาก COVID-19 ส่วนปี 2021 ก็ยังเป็นปีที่ดี โดยทำกำไร 15%
ส่วนใหญ่ในพอร์ตของ Jeppe Kirk Bonde จะเป็นหุ้น โดยเน้นไปที่ Amazon, Nintendo, Barrick Gold และ Meta Platforms นอกจากนี้ยังมี Bitcoin เพียงเล็กน้อย เพียง 0.20% ของขนาดพอร์ต
2. Terence Loh – นักเทรดที่น่า Copy Trade มากที่สุด
Terence Loh เข้าร่วมโปรแกรม eToro Copy Trade ในปี 2014 พร้อมทำกำไรต่อปีได้อย่างน่าประทับใจ คิดเป็น 85% ในปี 2019 ส่วนปี 2020 และ 2021 ทำกำไรได้ 99% และ 52% ตามลำดับ
ตอนนี้ พอร์ต Terence Loh มีสินทรัพย์เพียงสองรายการ – Bitcoin และหุ้น Apple ซึ่งเพราะด้านประสิทธิภาพของตลาดคริปโตในปี 2023 มูลค่าพอร์ตของเขาจึงลดลง 20% ในขณะที่เขียน
นักเทรดคนนี้ให้ความสำคัญกับเหรียญคริปโต โดย eToro ให้คะแนนความเสี่ยงของ Terence Loh ที่ 4 ซึ่งเน้นย้ำว่านักเทรดมีความเสี่ยงต่ำ และยังถูกสนับสนุนเพิ่มเติมจากเงินขาดทุนสะสมรายสัปดาห์สูงสุดของนักเทรดขายเพียง 7.7%
3. Fmorbel – เทรดเดอร์ที่มีผลประกอบการสูงสุดในปี 2023
ในขณะที่นักเทรดขาดทุนเมื่อปี 2022 เนื่องจากสภาวะตลาด แต่ Fmorbel ทำกำไรได้กว่า 70% ในขณะที่เขียน นับตั้งแต่เข้าร่วม eToro ในปี 2017 อัตรา 50% ของสถานะที่นักเทรดคนดังกล่าวเปิดคือเหรียญคริปโต
Fmorbel ยังชอบที่จะทำกำไรจากหุ้นประมาณ 25% โดยในปี 2565 เขาก็ได้กลับมามีผลกำไรประจำปีที่มั่นคง เช่น ในปี 2020 และ 2021 เขาจบปีด้วยกำไร 10% และ 14% ตามลำดับ
เพราะ Fmorbel รู้ว่าตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงขาลง เขาก็ได้ขายพอร์ตทั้งหมดตั้งแต่ตอนนั้น และกลับเข้าตลาดอีกครั้งเมื่อเจอโอกาสที่เหมาะสม ดังนั้น Fmorbel จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่มองหานักลงทุนที่ความทนทานในความเสี่ยง
4. CPHequities – เทรดเดอร์น่า Copy Trade ที่เหมาะกับการกระจายความเสี่ยง
CPHequities เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการ eToro Copy Trade ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งกระจายความเสี่ยงในตลาดมากมาย โดยเทรดเดอร์จะโฟกัสไปที่บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ซึ่งเน้นที่ Alphabet, Microsoft, Apple และ Amazon
นอกจากนี้ CPHequities ยังเป็นนักเทรดฟอเร็กซ์ ได้แก่ EUR/USD, AUD/USD และ EUR/JPY และยังกระจายความเสี่ยงในเหรียญคริปโตอีกด้วย
ได้แก่ Bitcoin, Ethereum, Cardano และ BNB โดยในปี 2560 เขาก็ทำกำไรได้ทุกปี คิดเป็น 43% และ 35% ในปี 2020 และ 2021 ตามลำดับ ก่อนหน้านี้ เทรดเดอร์ทำกำไรได้ 10%, 26% และ 23% ในปี 2019, 2018 และ 2017 ตามลำดับ
5. Analisisciclico – นักลงทุนเน้นคุณค่าที่มีคะแนนความเสี่ยงเพียง 2
ใครที่มองหาเทรดเดอร์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ก็ควรนึกถึง Analisisciclico ร่วมด้วย โดย eToro จัดอันดับความเสี่ยงของไว้เพียง 2 ในปี 2020 และ 2021 ตามลำดับ พร้อมทำกำไรได้ 7% และ 29%
ก่อนนี้ เทรดเดอร์ให้ความสำคัญกับฟอเร็กซ์เป็นอย่างมาก โดยกว่า 82% ของสถานะจะเป็นคู่สกุลเงินหลัก ส่วนตลาดอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีและสินค้าโภคภัณฑ์ และมีการจัดสรรเล็กน้อยให้กับเหรียญคริปโตและ ETF
วิธีเริ่ม Copy Trade
เราจะอธิบายวิธีเริ่ม Copy Trade กับนักเทรดที่มีคะแนนสูงสุดบนแพลตฟอร์ม eToro ภายในเวลาไม่กี่นาที
ขั้นที่ 1: สร้างบัญชี eToro
ขั้นตอนแรกคือการลงทะเบียนบัญชี eToro เพราะได้รับการควบคุมและให้บริการโบรกเกอร์และเครื่องมือ Copy Trade จึงต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วน
โดยต้องใช้อีเมล ชื่อสกุล วันเกิด และเบอร์มือถือ
ตั้งชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน และตอบคำถามง่ายๆ สองสามข้อเกี่ยวกับประสบการณ์การเทรดก่อนหน้านี้
ขั้นที่ 2: อัพโหลดบัตรประจำตัว
ข้อกำหนดอีกอย่างสำหรับการใช้แพลตฟอร์ม Copy Trade ที่มีการกำกับคือผู้ใช้ใหม่จะต้องอัพโหลดบัตรประจำตัว ซึ่งอาจเป็นพาสปอร์ต ใบขับขี่ หรือบัตรประจำตัวประชาชน
ตรวจสอบว่าได้อัพโหลดเอกสารอย่างชัดเจน ซึ่ง eToro จะยืนยันบัญชีได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
ขั้นที่ 3: ฝากเงิน
ต่อไปคือการฝากเงิน ขั้นต่ำที่ $10 แต่อย่าลืมว่าผู้ใช้ต้องลงทุนอย่างน้อย $200 เพื่อใช้เครื่องมือ Copy Trade
หลังจากจำนวนเงินแล้ว ให้เลือกช่องทางการชำระเงินที่ที่ eToro รองรับ ได้แก่ Visa, MasterCard, Skrill, PayPal, Neteller, ธนาคารออนไลน์ และอื่นๆ
การชำระเงินในสกุลเงิน USD จะไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ
ขั้นที่ 4: เลือกนักเทรดที่ต้องการ Copy Trade
นี่อาจมีความสำคัญมากที่สุด เพราะผู้ใช้จะต้องเลือกนักเทรดที่เหมาะ โดยคลิกที่ปุ่ม ‘Discover’ ที่ด้านซ้ายมือของแดชบอร์ด
จากนั้นคลิกที่ปุ่ม ‘View All’ ถัดจาก CopyTrader
โดยผู้ใช้จะสามารถใช้ตัวกรองได้ เช่น ผู้ใช้สามารถค้นหาเทรดเดอร์ที่เหมาะสมเพื่อ Copy Trade ตามประเภทสินทรัพย์ที่ต้องการ, ROI ที่ผ่านมา, ระดับความเสี่ยง, และอื่นๆ
เมื่อคลิกที่เทรดเดอร์ ก็จะมีหน้าโปรไฟล์ส่วนตัวของพวกเขา เพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหานักเทรดได้ทั้งหมด
ขั้นที่ 5: ยืนยันการ Copy Trade
เมื่อพบนักเทรดที่เหมาะสม ให้คลิกที่ปุ่ม ‘Copy’ และจะมีแบบฟอร์มออเดอร์เหมือนในภาพด้านล่าง
ขั้นแรก ใส่จำนวนเงินที่จะลงทุนในนักเทรดคนนั้นๆ
โดยสามารถใส่เงินได้ตั้งแต่ $200 ขึ้นไป และโปรดตรวจสอบว่าช่อง ‘Copy Open Trades’ ได้ติ๊กแล้วหรือยัง
เพราะนอกจากผู้ใช้จะได้คัดลอกการลงทุนในอนาคต แต่ยังรวมถึงพอร์ตปัจจุบันด้วย สุดท้ายนี้ คลิกที่ปุ่ม ‘Copy’ เพื่อยืนยันการลงทุน Copy Trade
บทสรุป
แพลตฟอร์ม Copy Trade ที่ดีที่สุดจะให้ผู้ใช้สามารถลงทุนในตลาดการเงินได้ เพียงเลือกเทรดเดอร์ที่เหมาะสมและเงินที่ต้องการลงทุน
หากต้องการเริ่มใช้แพลตฟอร์ม Copy Trade ที่ดีที่สุดในตอนนี้ – eToro ก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการเปิดบัญชี และกำหนดลงทุนขั้นต่ำที่ $200 ซึ่งมีราคาไม่แพงเลย
eToro เป็นแพลตฟอร์มที่มีเทรดเดอร์หลายพันคนให้ Copy Trade และรองรับตลาดมากมาย ได้แก่ ฟอเร็กซ์, หุ้น, ETF, ดัชนี,เหรียญคริปโต, และสินค้าโภคภัณฑ์