การตั้งชื่อธุรกิจสำหรับบริษัทขนาดเล็ก อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จทั้งหมด! เพราะชื่อธุรกิจเป็นส่วนสำคัญในการสร้างแบรนด์ให้แก่ธุรกิจขนาดเล็ก และสร้างการรับรู้ในตลาด บ่อยครั้งที่ความประทับใจแรกของผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า เกิดขึ้นจากการอ่านหรือได้ยินชื่อของธุรกิจนั้น ๆ ชื่อจึงมีผลต่อความรู้สึก และมีบทบาทอย่างมากต่อความไว้วางใจที่มีให้ในแบรนด์ของคุณ

อย่ากลัวการตั้งชื่อไปเลย! การเรียนรู้วิธีตั้งชื่อแบรนด์ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เรามี 6 ขั้นตอนในการตั้งชื่อ เพื่อให้สะท้อนถึงค่านิยมธุรกิจ และมาตรฐานแบรนด์ หากคุณกำลังอยู่ในขั้นตอนการรีแบรนด์หรือเริ่มต้นธุรกิจ นี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยคุณได้ ซึ่งเริ่มตั้งแต่การระดมความคิด ไปจนถึงการตั้งชื่อธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

ตั้งชื่อธุรกิจตามเอกลักษณ์ของแบรนด์

เมื่อคุณต้องการหาไอเดียเกี่ยวกับชื่อของธุรกิจ จุดเริ่มต้นที่ดี คือ การคิดทบทวนว่าทำไมคุณจึงทำธุรกิจนี้ ธุรกิจของคุณมีไว้เพื่ออะไร? อารมณ์หรือความรู้สึกที่ต้องการจากลูกค้าคืออะไร? และคุณมีความตั้งใจหรือข้อเสนอการขายที่แตกต่างจากคนอื่นหรือไม่? ใช้เวลากลั่นกรององค์ประกอบเหล่านั้น ให้เหลือแค่คำหลักไม่กี่คำที่สามารถอธิบายถึงแบรนด์ของคุณได้ และคำเหล่านี้จะถูกนำมาใช้เพื่อตั้งชื่อธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งแสดงให้เห็นตัวตนของแบรนด์ได้อย่างถูกต้องและชัดเจน

การตั้งชื่อธุรกิจ

ตั้งชื่อบริษัทจากคำที่ใช้จริง

หลักการสำคัญอีกข้อหนึ่งของการตั้งชื่อธุรกิจที่น่าจดจำ คือ ไม่ควรใช้ชื่อที่แปลกเกินไป หรือไม่ใช่คำที่ใช้จริง เพราะผู้คนมักจะลืมชื่อเหล่านั้น ดังนั้น ควรตรวจสอบอีกครั้งว่า ชื่อประกอบด้วยคำจริงและสะกดง่าย เพราะคุณต้องการความโดดเด่น แต่ต้องไม่มากจนผู้คนจำชื่อไม่ได้ และยากที่จะค้นหาชื่อนั้น ๆ ทางออนไลน์

แน่นอนว่ามีหลายการตลาดออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ แต่ไม่ได้ใช้หลักการนี้ เช่น Google แต่นี่เป็นข้อยกเว้น เพราะจากคำศัพท์หลายล้านคำที่มีให้เลือกใช้จากพจนานุกรม จะเป็นเแนวทางในการเลือกชื่อตั้งชื่อบริษัทให้ง่าย และเพิ่มโอกาสในการจดจำชื่อได้ แต่แค่การสะกดชื่อธุรกิจของคุณได้ยังไม่เพียงพอ เพราะคำหลักทางธุรกิจต้องไม่ซ้ำใคร และมันจะช่วยระบุกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมของคุณได้

พิจารณาชื่อที่ไม่ปิดกั้นตัวเอง

ผู้ประกอบการทุกคนมักเริ่มต้นธุรกิจด้วยความหวัง หวังว่าจะประสบความสำเร็จ และเป็นผู้นำในตลาด เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้ อยากให้พิจารณาการตั้งชื่อแบรนด์ที่ไม่ล้าหลังไปตามกาลเวลา อย่าใช้ลูกเล่นที่ทันสมัยหรือฉลาดเกินไป และหลีกเลี่ยงการใช้คำที่เจาะจงมากเกินไป เพราะคุณอาจปิดกั้นตัวเอง และจำกัดโอกาสทางธุรกิจได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณตั้งชื่อธุรกิจ

ใหม่ว่า “Joan’s Mopping Service” และในอนาคตอันใกล้ คุณอาจต้องการเพิ่มบริการทำความสะอาดบ้านเต็มรูปแบบ  ชื่อที่มีอยู่จะไม่เหมาะสมสำหรับการขยายธุรกิจ ดังนั้น จงฝันให้ใหญ่และตั้งชื่อบริษัทความหมายดีๆ ที่ช่วยให้มีการเติบโตต่อไปได้

ใส่ความคิดสร้างสรรค์ในการตั้งชื่อแบรนด์

คำหลักของการตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์ ควรผ่านการตรวจสอบอย่างรอบคอบ และถึงเวลาแล้วที่จะใช้ประโยชน์จากความคิดสร้างสรรค์ และระดมสมองเพื่อตามหาชื่อธุรกิจที่เป็นไปได้ประมาณ 25 รายชื่อ ค่อย ๆ ตรวจสอบรายชื่อจนกว่าจะเหลือการตั้งชื่อธุรกิจเก๋ ๆ  5 หรือ 10 ชื่อในดวงใจ และทดสอบกับคู่แข่งอันดับต้น ๆ ของคุณ เกี่ยวกับมาตรฐาน 3 ขั้นตอนก่อนหน้านี้ สิ่งนี้ทำให้แน่ใจได้ว่า คุณจะไม่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ มากเกินไป และหลุดออกจากค่านิยมหลัก หลังจากขั้นตอนนี้ คุณจะเหลือรายชื่ออยู่เพียง 3 ถึง 5 รายชื่อที่คุณสนใจ และบ่งบอกความเป็นตัวตนในแบรนด์ของคุณได้ดีที่สุด

ตรวจสอบความพร้อมในการใช้งาน

เมื่อคุณตั้งชื่อธุรกิจที่คุณชื่นชอบได้ 3-5 รายชื่อแล้ว จำเป็นต้องตรวจสอบความพร้อมในการนำไปใช้งาน! การใช้ระบบค้นหาทางอิเล็กทรอนิกส์ (TESS) ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา จะช่วยให้คุณตรวจสอบการตั้งชื่อบริษัทในฐานข้อมูลเครื่องหมายการค้าที่มี เพื่อดูว่าตรงกับเครื่องหมายการค้าที่บุคคลอื่นใดได้จดทะเบียนไว้แล้วหรือไม่

 

หากการตั้งชื่อธุรกิจของคุณไม่มีค่าใช้จ่าย ขั้นตอนต่อไปคือ การตรวจสอบความพร้อมการใช้งานโดเมน เพราะบ่อยครั้งที่ธุรกิจต้อง เลือกชื่อโดเมนที่แตกต่างจากชื่อธุรกิจของตนเล็กน้อย แต่ต้องทำให้แน่ใจว่า มันสอดคล้องกับชื่อธุรกิจที่คุณจดทะเบียนไว้ หากคุณใช้เว็บไซต์ Vistaprint คุณจะสามารถตรวจสอบความพร้อมใช้งานของโดเมนภายในแดชบอร์ดนี้ได้

ทดสอบกับเป้าหมาย

เมื่อคุณมีชื่อธุรกิจ 3 ชื่อที่ตรงกับเกณฑ์ข้างต้น ก็ถึงเวลานำชื่อเหล่านั้นไปทดสอบกับตลาดเป้าหมายของคุณ ลองฟังความคิดเห็นของลูกค้า, สิ่งที่พวกเขาคาดหวัง หรือถามว่าพวกเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เพื่อเรียนรู้ความรู้สึกหรืออารมณ์ของชื่อแต่ละชื่อ สิ่งเหล่านี้จะเป็น ข้อมูลสำคัญในการตั้งชื่อแบรนด์ที่ดีที่สุด โดยคุณสามารถทำ Focus group หรือหาคนที่เป็นกลางมาวิพากษ์วิจารณ์สิ่งนี้ได้ 

หลังจากที่คุณรวบรวมการตอบสนองของผู้คนได้แล้ว ให้วิเคราะห์ข้อมูล และเลือกชื่อธุรกิจที่ใช่ที่สุด การวิเคราะห์ข้อมูลตั้งชื่อธุรกิจในเชิงลึกจะมีค่าอย่างเหลือเชื่อ และส่งผลต่อแนวทางธุรกิจอย่างไม่ต้องสงสัย หากมีชื่อที่ชนะอย่างชัดเจน ให้เดินหน้าต่อ และจดทะเบียนชื่อนั้นทันที! แต่หากต้องการปรับเปลี่ยน ให้กลับไปที่กระบวนการรวบรวมความคิดเห็นของผู้บริโภค ร่วมไปกับการระดมความคิด การทำงานล่วงหน้าเช่นนี้จะให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวอย่างแน่นอน

การตั้งชื่อธุรกิจ ถือเป็นก้าวสำคัญในขั้นตอนการทำธุรกิจของแบรนด์ขนาดเล็ก ดังนั้น ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกิจของคุณได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว โดยการใช้ 6 ขั้นตอนประกอบการตัดสินใจ แล้วคุณจะขอบคุณตัวเองเมื่อธุรกิจของคุณก้าวหน้าขึ้นในอนาคต และยังคงใช้ชื่อเริ่มต้นตามที่เคยตั้งใจไว้