เงินล้านเป็นก้าวแรกของเป้าหมายทางการเงินที่ดี แต่เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต้องนำเงินไปลงทุนต่อด้วย
หากคุณสงสัยว่า ‘มีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดี?’ คู่มือนี้พร้อมให้ความช่วยเหลือ โดยเราจะรีวิววิธีลงทุนด้วยเงิน 1 ล้าน และช่วยผู้อ่านตัดสินใจได้ว่า ควรเอาเงินล้านไปลงทุนที่ไหนในตอนนี้
10 วิธีที่ดีที่สุด ถ้ามีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดีในปี 2024
1 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนจำนวนมาก ดังนั้น จำเป็นต้องเข้าใจวิธีการลงทุนอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และนี่คือ 10 วิธีที่ดีที่สุดถ้ามีเงิน 1,000,000 ลงทุนอะไรดีให้เงินงอกเงย ในปี 2024:
- Sponge V2 – วิธีที่ดีที่สุดเมื่อมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดีในโครงการที่ก้าวล้ำด้านนวัตกรรม
- หุ้น – เพื่อเข้าเป็นหนึ่งในเจ้าของบริษัทที่ดีที่สุดในโลก
- REITs – ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ผ่านตลาดหุ้น
- การ Stake คริปโต – รับดอกเบี้ยสูงจากการถือครองเหรียญคริปโต
- ETFs – ลงทุนกองทุนรวม
- กองทุนดัชนี – ลงทุนในตลาดหุ้นเพื่อรับผลตอบแทนที่คาดหวัง
- NFT – ลงทุนในงานศิลปะและเกมดิจิทัลที่ไม่ซ้ำใคร
- Copy Trading – เลียนแบบการลงทุนจากเทรดเดอร์และนักลงทุนที่มีประสบการณ์
- สินค้าโภคภัณฑ์ – ซื้อขายโลหะ อาหาร และอื่น ๆ ในตลาดโลก
- พันธบัตร – ลงทุนระยะยาวอย่างปลอดภัย เพื่อสร้างสมดุลให้พอร์ต
หนึ่งในคำตอบของการมีเงิน 1 ล้าน ลงทุน อะไรดี 2566 คือ การลงทุนในโครงการคริปโตเคอเรนซี่ที่มีโอกาสการเติบโตสูง และเป็นเหรียญใหม่ ๆ เช่น Sponge V2 ซึ่งเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งที่เราแนะนำ คลิกด้านล่างเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
รีวิวเมื่อมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดีที่สุด
ด้วยตัวเลือกการลงทุนมูลค่า 1 ล้านที่มีอยู่มากมายให้เลือก สิ่งสำคัญคือต้องเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมเพื่อสร้างพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายและสร้างผลกำไร เรามาดูวิธีลงทุน 1 ล้านบาท กันดีกว่าวันนี้
1. Sponge V2 – วิธีที่ดีที่สุดเมื่อมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดีในโครงการที่ก้าวล้ำด้านนวัตกรรม
เมื่อมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดีในปี 2024 คำตอบที่ดีที่สุดคงจะหนีไม่พ้นการลงทุนใน Sponge V2 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาเส้นทางในการลงทุนที่ได้กำลังสูงในปัจจุบัน
$SPONGE V2 มีโอกาสการเติบโตสูง และน่าจะเป็นหนึ่งในโทเค็นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปีนี้ได้ ทั้งนี้ มีนักวิเคราะห์คริปโตหลายท่านเชื่อว่า โทเค็น V2 จะให้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกันกับโทเค็น V1 นั่นหมายความถึงการเพิ่มมูลค่า 100 เท่า และยังไม่รวมถึงการได้รับรางวัลจากการ Stake และเกม P2E ที่กำลังจะมาถึง
$SPONGE V2 มีโทคีโนมิกส์ที่แตกต่างจากโทเค็น V1 ตามเอกสารไวท์เปเปอร์ $SPONGE โทเค็นใหม่จะมีอุปทานรวม 150 พันล้านดอลลาร์ โดย 43.09% จะถูกกันไว้เป็นรางวัลการ Stake โทเค็น $SPONGE V1 เป็นระยะเวลา 4 ปี ส่วนอีก 26.93% มีไว้เป็นโบนัสสำหรับการซื้อ V2 สำหรับนักลงทุนที่ซื้อและ Stake โทเค็น V1 ก่อนการลิส $SPONGE V2
ในขณะที่ อุปทาน 4.47% จะจัดสรรไว้เพื่อพัฒนาเกม P2E เกมใหม่, 8% ใช้เพื่อเป็นรางวัลในเกม P2E, 7.50% เพื่อทำการตลาด และ 10% เพื่อสร้างสภาพคล่องของโครงการ
และนักลงทุนอาจเห็นผลกำไรที่มากขึ้น หาก $SPONGE ประสบความสำเร็จในการลิสบน Binance หรือ OKX ดังนั้น จึงไม่ควรพลาดโอกาสในการซื้อ $SPONGE เพื่อล็อคโทเค็นและรับรางวัลเป็น $SPONGE V2 โดยทำตามขั้นตอนที่เราระบุไว้ในส่วนท้ายของบทความ
ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการลงทุนด้วยวิธีนี้จะต้องมีกระเป๋าเงินที่รองรับเครือข่าย Ethereum ได้ เช่น MetaMask เพราะจะต้องใช้ในขั้นตอนการซื้อ จากนั้นจะต้องทำการ Stake เพื่อรับรางวัล
เข้าร่วม X และ Telegram เพื่อติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการพัฒนาล่าสุด และอ่านเอกสารไวท์เปเปอร์ Sponge V2 เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับโปรเจ็กต์นี้เพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
เพดานเงินทุน
ไม่ระบุ
โทเค็นทั้งหมด
150 พันล้าน
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์
ไม่ระบุ
Blockchain
เครือข่าย Ethereum
ประเภทโทเค็น
ERC-20
เงินลงทุนขั้นต่ำ
ไม่มี
ซื้อได้ด้วย
ETH, USDT, Card
2. หุ้น – เพื่อเข้าเป็นหนึ่งในเจ้าของบริษัทที่ดีที่สุดในโลก
หุ้นเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่พบได้บ่อยที่สุดในพอร์ตการลงทุน ซึ่งการถือหุ้นแสดงถึงการเป็นเจ้าของบางส่วนของกิจการ ซึ่งสามารถเลือกลงทุนในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุดในโลกบางแห่งได้ และนักลงทุนบางคนมองว่า การมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดี ควรมีตลาดหุ้นเป็นคำตอบ
เนื่องจากมีหุ้นหลายประเภทที่นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ เช่น Growth Stock คือหุ้นที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และราคาสูงเมื่อเทียบกับผลตอบแทนในปัจจุบัน เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าอนาคตจะทำกำไรได้ดี ส่วน Value stock จะเป็นขั้วตรงข้าม เพราะมีราคาต่ำ และมักจะเป็นตัวแทนของหุ้นในบริษัทที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีความน่าเชื่อถือแต่เติบโตได้ช้า
Dividend stock คือ หุ้นที่จ่ายเงินปันผลให้แก่นักลงทุนในแต่ละเดือน ไตรมาส หรือปี ซึ่งเงินปันผลเป็นหนึ่งในรายได้ประจำ ซึ่งอาจมีความสำคัญสำหรับพอร์ตการลงทุนบางประเภท
เมื่อลงทุนในหุ้น นักลงทุนจะต้องพิจารณาความเป็นไปของบริษัทที่อยู่เบื้องหลังอย่างรอบคอบ โดยบริษัทที่ดีที่สุดควรมีรายได้ที่มั่นคงและเติบโตอยู่เสมอ
ที่สำคัญนักลงทุนจะต้องสั่งซื้อผ่านโบรกเกอร์ซื้อขายหุ้น เพื่อลงทุนในหุ้นแต่ละตัว ลองดู eToro ซึ่งคิดค่าคอมมิชชัน 0% สำหรับการลงทุนในหุ้น และมีเครื่องมือมากมายที่ช่วยทำการวิจัยในหุ้นที่คุณกำลังสนใจ
3. REITs – ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ผ่านตลาดหุ้น
REIT หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นบริษัทหรือกองทุนที่ช่วยให้ใครก็ตามสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ นักลงทุนรายย่อยสามารถซื้อ REIT ได้เช่นเดียวกับการซื้อหุ้น ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องจำนองที่ดินก่อนเริ่มลงทุน
REIT มีหลายประเภทให้นักลงทุนได้เลือกลงทุน บางคนอาจสนใจในบ้านพักอาศัยและสร้างผลตอบแทนจากการให้เช่า, อาคารพาณิชย์ หรือให้เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ ในขณะที่ REIT บางแห่งลงทุนในพื้นที่เพาะปลูกอันทรงคุณค่า ความหลากหลายนี้แสดงให้เห็นว่า การมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดีในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ก็ยังสามารถสร้างพอร์ตที่ดินที่แตกต่างกันออกไปได้
เมื่อลงทุนใน REIT อย่าลืมพิจารณาค่าธรรมเนียมที่กองทุนเรียกเก็บ และจำนวนเงินที่คืนให้กับนักลงทุนด้วย เช่น REIT บางแห่งให้เงินปันผลสูง และไม่ได้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากนัก แต่บางแห่งอาจจ่ายเงินปันผลเพียงเล็กน้อย เพื่อเพิ่มราคาหุ้นด้วยการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ใหม่
ผู้ลงทุนสามารถค้นหา REIT ที่หลากหลายใน eToro ได้
4. การ Stake คริปโต – รับดอกเบี้ยสูงจากการถือครองเหรียญคริปโต
บล็อกเชนจำนวนมากที่สกุลเงินดิจิทัลยอดนิยมทำงานอยู่ ใช้โปรโตคอลความปลอดภัยที่เรียกว่า Proof of Stake ผู้ถือคริปฌโตจำเป็นต้อง Stake โทเค็นบางส่วน เพื่อตรวจสอบธุรกรรมบนเครือข่าย หากพวกเขากระทำอย่างซื่อสัตย์ และทำให้เครือข่ายนั้นทำงานได้อย่างราบรื่น ก็จะได้รับรางวัลเป็นสกุลเงินดิจิทัลเป็นการตอบแทน
นักลงทุนสามารถใช้วิธี Staking เหรียญคริปโต เพื่อรับดอกเบี้ยจากการถือครอง คริปโตของพวกเขาได้ โดยมีหลายแพลตฟอร์มที่อำนวยความสะดวกในการ Stake Altcoin ชั้นนำ และรับอัตราดอกเบี้ยสูง
ยิ่งไปกว่านั้น บัญชีดอกเบี้ยคริปโตจะจ่ายโทเค็นเป็นรางวัลรายวันหรือรายสัปดาห์ ซึ่งทำให้นักลงทุนสามารถเก็บรวบรวมผลตอบแทนได้
หนึ่งในแพลตฟอร์ม Stake คริปโตที่ดีที่สุดในปี 2024 คือ Quint ซึ่งมือใหม่ใช้งานง่าย และช่วยให้นักลงทุนสามารถ Stake โทเค็น QUINT และรับดอกเบี้ยสูงถึง 16.18% ต่อปี นอกจากนี้ Quint ยังช่วยให้นักลงทุนสามารถ Stake QUINT และ BNB ร่วมกัน เพื่อรับดอกเบี้ย 39.08% ซึ่งสูงกว่าดอกเบี้ยจากธนาคารส่วนใหญ่หลายร้อยเท่า นี่จึงเป็นคำตอบที่ดีหากสงสัยว่ามีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดีให้กำไรงอกเงย
5. ETFs – ลงทุนในกองทุนรวม
ETF (กองทุนรวม) คือ กลุ่มของหุ้นหรือสินทรัพย์ที่นักลงทุนสามารถซื้อได้รวมกันในการซื้อขายครั้งเดียว ETF เดียวอาจมีหุ้นที่แตกต่างกันหลายสิบหรือหลายร้อยหุ้น และมีสัดส่วนที่แตกต่างกัน ทำให้เป็นวิธีง่าย ๆ ในการสร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลาย
สิ่งหนึ่งที่ดีเกี่ยวกับการลงทุน ETF ก็คือ ETF สามารถใช้เพื่อลงทุนในภาคการตลาดหรือภาคส่วนโดยเฉพาะได้ ตัวอย่างเช่น มี ETF ที่รวมหุ้นในภาคการขนส่งของสหรัฐอเมริกาทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมี ETF ที่รวบรวมหุ้น 5G จากภาคการตลาดต่าง ๆ ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่คิดว่า เทคโนโลยี 5G จะกลายเป็นเรื่องของอนาคต
ทั้งนี้ เมื่อมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดีใน ETF ต้องอย่าลืมดูค่าธรรมเนียมที่กองทุนเรียกเก็บด้วย เพราะเมื่อลงทุนใน ETF จะถูกเก็บ Expense ratio ซึ่งโดยทั่วไปจะต่ำกว่า 1%
ETF ซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้น จึงหาได้จากโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ เช่น eToro ที่เสนอ ETF หลายร้อยรายการพร้อมค่าคอมมิชชัน 0%
6. กองทุนดัชนี – ลงทุนในตลาดหุ้นเพื่อรับผลตอบแทนที่คาดหวัง
กองทุนดัชนี เป็นกองทุน ETF หรือกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่เลียนแบบองค์ประกอบของดัชนีตลาดหุ้นหลัก ๆ ตัวอย่างเช่น กองทุนดัชนีสำหรับ S&P 500 และ NASDAQ 100
กองทุนเหล่านี้ประกอบด้วยหุ้นในสัดส่วนเดียวกันกับดัชนีตลาดเหล่านั้น นั่นหมายความว่า หาก S&P 500 ราคาเพิ่มขึ้น 1% กองทุนดัชนี S&P 500 ก็จะเพิ่มขึ้น 1% ด้วย
ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจำนวนมากแนะนำว่า กองทุนดัชนีเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดเมื่อคิดว่าถ้ามีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดี เพราะกองทุนดัชนีได้รับการจัดการแบบพาสซีฟ และโดยทั่วไปจะมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายไม่เกิน 0.25% ทำให้มีราคาไม่แพงมาก นอกจากนี้ เนื่องจากกองทุนดัชนีมักประกอบด้วยหุ้นหลายตัว จึงมีการกระจายความเสี่ยงที่ค่อนข้างดี สุดท้ายนี้ S&P 500 ในอดีต มีราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ต่อปี และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถเอาชนะตลาดได้ด้วยการซื้อขายหุ้น
นักลงทุนสามารถค้นหากองทุนดัชนีสำหรับดัชนีหุ้นหลักของสหรัฐฯ และตลาดทั่วโลกได้ที่ eToro
7. NFT – ลงทุนในงานศิลปะและเกมดิจิทัลที่ไม่ซ้ำใคร
NFT หรือ Non-fungible token เป็นโทเค็นดิจิทัลประเภทหนึ่งบนบล็อกเชน NFT และทุก ๆ โทเค็นจะมีลักษณะที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งนักลงทุนอาจซื้อ NFT น่าลงทุนที่สุด เช่น งานศิลปะดิจิทัล หรือของสะสมดิจิทัล ได้
ตลาด NFT มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และมีการเปิดตัวโครงการ NFT ใหม่ที่มาแรงอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าผลการดำเนินงานล่าสุดอาจไม่สามารถรับประกันได้ว่า NFT จะยังคงมีมูลค่าเช่นนั้นต่อไป แต่ก็มีสัญญาณมากมายที่แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนยังคงต้องการซื้อ NFT จากคอลเลกชันชั้นนำ
หนึ่งใน NFT ที่ดีที่สุดที่จะซื้อในปี 2023 คือ Lucky Block Platinum Rollers Club NFT นี้ไม่ใช่งานศิลปะ แต่เป็นตั๋วเข้าลุ้นรางวัลประจำวันจาก Lucky Block ซึ่งมอบเงินรางวัล 10,000 ดอลลาร์ให้แก่ผู้ถือ NFT ที่โชคดีทุกวัน
เนื่องจากมี Platinum Rollers Club NFT เพียง 10,000 รายการ ผู้ถือ NFT แต่ละคนจึงมีโอกาส 1 ใน 10,000 ที่จะชนะรางวัล 10,000 ดอลลาร์ในทุกวัน หรือหากมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดีที่ไม่ต้องการเสี่ยง ก็สามารถให้ยืม NFT และสร้างรายได้ที่มั่นคงได้เช่นกัน
นักลงทุนสามารถซื้อ Lucky Block NFT ได้ที่ Launchpad ซึ่งเป็นตลาด NFT ออนไลน์
8. Copy Trading – เลียนแบบการลงทุนจากเทรดเดอร์และนักลงทุนที่มีประสบการณ์
แพลตฟอร์ม Copy Trade มีวิธีการซื้อขายหุ้นและสินทรัพย์อื่น ๆ โดยไม่ต้องทำงานหนักมาก และบางคนถือว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด เมื่อมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดีในระยะสั้น นักลงทุนที่ต้องการ Copy Trading ต้องมีเงินทุนไว้ในพอร์ตการลงทุนก่อน เพื่อนำไปใช้เลียนแบบการเทรดจากเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มากกว่าโดยอัตโนมัติ
บนแพลตฟอร์มเช่น eToro นักลงทุนสามารถดูผลการดำเนินงานของเทรดเดอร์ ล่าสุด และรายละเอียดพื้นฐานบางอย่างเกี่ยวกับกลยุทธ์ของพวกเขา ซึ่งมีเทรดเดอร์หลายพันรายให้เราได้เลือก ดังนั้น นักลงทุนจึงสามารถเลือกได้ว่า ต้องการลงทุนตามเทรดเดอร์รายไหน
การ Copy Trading สามารถใช้เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายได้มากขึ้นด้วยเงินลงทุน 1 ล้านบาท นักลงทุนจำนวนมากพร้อมที่จะคัดลอกโดยมุ่งเน้นไปที่ภาคการตลาดหรือประเภทสินทรัพย์ที่เฉพาะเจาะจง ดังนั้น นักลงทุนสามารถกระจายการลงทุนในเงิน 1 ล้านบาท ของตนไปยังเทรดเดอร์หลายรายได้อย่างง่ายดาย ซึ่ง eToro ต้องการการลงทุนขั้นต่ำเพียง 200 ดอลลาร์ต่อเทรดเดอร์ ทำให้การลงทุนรูปแบบนี้เข้าถึงได้ง่ายมาก
9. สินค้าโภคภัณฑ์ – ซื้อขายโลหะ อาหาร และอื่น ๆ ในตลาดโลก
สินค้าโภคภัณฑ์ เป็นประเภทสินทรัพย์ประเภทโลหะมีค่า เช่น ทองคำและเงิน, ผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น โกโก้และถั่วเหลือง, แหล่งพลังงาน เช่น น้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ สินค้าโภคภัณฑ์มีการซื้อขายกันในตลาดโลก และราคาของพวกมันอาจขึ้นหรือลงได้ตลอดเวลา เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลก
เมื่อมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดี ? หนึ่งในเหตุผลสำคัญในการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ ก็คือ ราคาของสิ่งเหล่านี้ไม่สัมพันธ์กับตลาดหุ้น กล่าวคือ ราคาหุ้นอาจตกทั้งกระดาน แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยส่วนใหญ่มากนัก ดังนั้น สินค้าโภคภัณฑ์จึงสามารถป้องกันความเสี่ยงให้กับนักลงทุนที่ลงทุนจำนวนมากที่ถือหุ้นหรือสกุลเงินดิจิทัลได้
อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์อาจมีความซับซ้อน สินค้าโภคภัณฑ์จำนวนมากซื้อขายด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า แม้ว่าแพลตฟอร์มอย่าง eToro จะอนุญาตให้ซื้อขายสินค้า ผ่านสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ได้ แต่นักลงทุนจำนวนมากชอบที่จะเน้นไปที่สินค้าโภคภัณฑ์เพียง 1 หรือ 2 ชิ้น ที่พวกเขาค้นคว้ามาแล้วอย่างลึกซึ้ง แทนที่จะลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ที่แตกต่างกันหลายสิบรายการ
10. พันธบัตร – ลงทุนระยะยาวอย่างปลอดภัย เพื่อสร้างสมดุลให้พอร์ต
พันธบัตร ถือเป็นหลักฐานการกู้ที่แสดงถึงความเป็นเจ้าหนี้ ที่มีรัฐบาลหรือบริษัทเป็นลูกหนี้ โดยทั่วไป เมื่อนักลงทุนซื้อพันธบัตร พวกเขาจะได้รับดอกเบี้ยเป็นประจำตลอดอายุของพันธบัตร ตามอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และเมื่อพันธบัตรหมดอายุ ผู้ลงทุนจะได้รับจำนวนเงินที่จ่ายในตอนแรกคืน
พันธบัตรไม่ใช่การลงทุนที่น่าตื่นเต้น อย่างไรก็ตาม มีสิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงเมื่อมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดี เพราะพันธบัตรเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งสร้างสมดุลให้แก่พอร์ตการลงทุนได้ และอาจมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นและสกุลเงินดิจิทัล
โปรดทราบว่า พันธบัตรยังคงมีความเสี่ยง บริษัทและรัฐบาลสามารถผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรได้ ซึ่งในกรณีนี้นักลงทุนอาจไม่ได้รับเงินคืนทั้งหมด โดยทั่วไปแล้ว พันธบัตรที่มีความเสี่ยงสูงกว่าจะจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า ดังนั้น นักลงทุนจึงสามารถเลือกผลตอบแทนและความเสี่ยงตามความเหมาะสมได้
วิธีเลือกว่ามีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดีที่สุด
ส่วนสำคัญของการเรียนรู้วิธีลงทุนด้วยเงิน 1 ล้าน คือ การระบุวิธีการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับพอร์ตการลงทุนของแต่ละบุคคล เพราะไม่ค่อยสมเหตุสมผลเลยที่จะลงทุน 1 ล้านในสินทรัพย์เพียงอย่างเดียว หรือแม้แต่สินทรัพย์ประเภทเดียว ดังนั้น โดยทั่วไปแล้วนักลงทุนควรพิจารณาหลาย ๆ ตัวเลือกเมื่อต้องการลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก
ต่อไปนี้ คือ สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดี
เป้าหมายการลงทุน
เป้าหมายของนักลงทุน ถือเป็นรากฐานของกลยุทธ์ เมื่อมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดีจึงต้องคำนึงถึงเป้าหมายเป็นสำคัญ เพราะการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ ย่อมแตกต่างจากการลงทุนระยะสั้นอย่างมาก
นักลงทุนจึงควรเริ่มต้นด้วยการคิดถึงสิ่งที่พวกเขาคาดหวัง เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้ว่ากรอบเวลาการลงทุนจะเป็นแบบใด และรับความเสี่ยงได้มากเท่าไหร่ ทั้งนี้ การลงทุนของแต่ละคนจะแตกต่างกัน ตามแต่เป้าหมายของพวกเขา
การยอมรับความเสี่ยง
ความเสี่ยงเป็นเรื่องปกติของการลงทุน แต่ไม่ใช่ว่าทุกสินทรัพย์จะมีความเสี่ยงเท่ากัน การลงทุนบางอย่างมีความเสี่ยงมากกว่า ซึ่งมีความหมายว่ามีโอกาสที่จะสูญเสียเงินมากกว่า โดยทั่วไปแล้ว สกุลเงินดิจิทัลถือว่ามีความเสี่ยงสูง หุ้นมีความเสี่ยงปานกลาง และพันธบัตรมีความเสี่ยงน้อยที่สุด
อีกด้านหนึ่งของความเสี่ยง คือ ผลตอบแทน เพราะสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงมักให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า เช่น โครงการสกุลเงินดิจิทัลใหม่อาจให้ผลตอบแทนหลายพันเปอร์เซ็นต์ในปีเดียว ในขณะที่พันธบัตรที่มีความเสี่ยงต่ำอาจให้ผลตอบแทนเพียง 1-5% ต่อปี
ความผันผวน
ความผันผวน คือการวัดว่าราคาของสินทรัพย์เปลี่ยนแปลงเร็วแค่ไหน หุ้นที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในหนึ่งวัน แล้วพังลงในวันถัดไป ถือว่ามีความผันผวนมากกว่าหุ้นที่เปลี่ยนแปลงมูลค่าเพียงเศษเสี้ยวเปอร์เซ็นต์ในแต่ละวัน
ความผันผวนมีความสำคัญ เนื่องจากอาจส่งผลต่อกรอบเวลาของการลงทุน หากนักลงทุนมีเวลานาน พวกเขาอาจไม่คำนึงถึงความผันผวน และไม่มีความกดดันที่จะต้องขายในช่วงเวลาที่สินทรัพย์ราคาร่วงลง เพราะพวกเขาสามารถรอจนกว่าราคาจะพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งได้ แต่หากนักลงทุนมีกำหนดเวลา พวกเขาอาจถูกบังคับให้ขายสินทรัพย์นั้นในทันทีได้
การกระจายความเสี่ยง
สิ่งสำคัญที่สุดประการหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดี ก็คือ การกระจายความเสี่ยง ซึ่งหมายถึง การถือสินทรัพย์ที่หลากหลาย และแต่ละรายการมีความเคลื่อนไหวของราคาไปในทิศทางที่แตกต่างกัน
การกระจายความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากจะช่วยปกป้องนักลงทุนจากความผันผวนของตลาดได้ เพราะหากนักลงทุนใส่เงินทั้งหมด 1 ล้านในหุ้นเพียงอย่างเดียว พวกเขาจะขาดทุนและหมดเนื้อหมดตัวในวันที่ตลาดตกต่ำได้
ในทางกลับกัน สมมติว่านักลงทุนแบ่งเงินเย็นเพื่อลงทุนในหุ้น สกุลเงินดิจิทัล พันธบัตร และสินค้าโภคภัณฑ์ แม้ว่าตลาดหุ้นจะล่มสลาย แต่พันธบัตรและ สินค้าโภคภัณฑ์ก็ยังทำกำไรได้ดี นักลงทุนสามารถขายสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพสูงเหล่านี้ได้หากต้องการเงินสด และอาจใช้เงินสดนั้น ๆ เพื่อลงทุนใน Undervalued stocks ในขณะที่ตลาดหุ้นตกต่ำได้
ขั้นตอนการลงทุนที่ดีที่สุด – มีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดี?
ตอนนี้นักลงทุนทราบวิธีที่ดีที่สุด เมื่อมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดีแล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มต้นแล้วลงทุนอย่างจริงจัง โดยเราจะอธิบายการลงทุนทีละขั้นตอนใน Sponge V2 ($SPONGE) โครงการคริปโตใหม่ที่ดีที่สุดในปี 2024
ขั้นตอนที่ 1: รับกระเป๋าเงินคริปโต
ในตอนแรกผู้ใช้ที่สนใจจะต้องดาวน์โหลดกระเป๋าเงินคริปโตก่อน และติดตั้งกระเป๋าเงินเช่น MetaMask บนเบราว์เซอร์ของตน (แนะนำให้ผู้ใช้มือถือดาวน์โหลด TrustWallet)
ขั้นตอนที่ 2: เชื่อมต่อ Wallet กับ Presale
ในขั้นตอนถัดไป นักลงทุนควรไปที่หน้าการขายพรีเซลอย่างเป็นทางการของ Sponge V2
หลังจากค้นหาข้อมูลการขายของโครงการแล้ว ผู้ซื้อควรเลือกกระเป๋าเงินที่พวกเขาได้ติดตั้งไว้ (เช่น Metamask หรือ TrustWallet) เพื่อเชื่อมต่อวอลเลท
ขั้นตอนที่ 3: ซื้อ USDT หรือ ETH
หลังจากเข้าสู่ระบบกระเป๋าเงินแล้ว ผู้ซื้อจะต้องเติมเงิน USDT หรือ ETH ให้เพียงพอเพื่อซื้อ $SPONGE หรือซื้อด้วยบัตรเครดิต
ขั้นตอนที่ 4: ซื้อ $SPONGE
ในขั้นตอนนี้ ผู้ซื้อควรระบุจำนวน USDT หรือ ETH ที่ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นโทเค็น $SPONGE
ขั้นตอนที่ 5: รับ $SPONGE
ในขั้นตอนสุดท้าย นักลงทุนสามารถยืนยันธุรกรรมได้หลังจากตรวจสอบจำนวนโทเค็น $SPONGE ที่จะได้รับอีกครั้ง และนักลงทุนสามารถรับโทเค็นได้หลังการขายสิ้นสุดลง
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่ได้รับการควบคุมที่มีความผันผวนสูง
บทสรุป – มีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไร
เราได้รวบรวม 10 วิธีที่ดีที่สุด เมื่อมีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดี ที่น่าจะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ว่า ควรลงทุนเงินล้านได้ที่ไหนในปัจจุบันสำหรับนักลงทุนที่ค้นหาโครงการเหรียญคริปโตชั้นนำ ควรพิจารณา Sponge V2 ($SPONGE) ซึ่งมีประโยชน์ใช้งานที่มีประสิทธิภาพ และอยู่ระหว่างการขายพรีเซลที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ช่วงเริ่มแรก และน่าจะปูทางไปสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งในเวลาต่อ ๆ ไป โดยปัจจุบัน $SPONGE สามารถซื้อได้ในราคาเพียง 0.000524 ดอลลาร์ต่อโทเค็นเท่านั้น