การ Stake เหรียญจะช่วยมอบผลกำไรจากเหรียญคริปโตได้โดยไม่จำเป็นต้องขาย โดยคุณสามารถนำเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่ไม่ได้ใช้งานไปสร้างรายได้แบบพาสซีฟและยังเป็นเจ้าของเหรียญในเวลาเดียวกัน
คู่มือนี้จะอธิบายถึงเหรียญ Staking ที่ดีที่สุดในปี 2023 โดยเราจะพูดถึงข้อดีของการ Staking อย่างละเอียดและกระดานเทรดที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้
เหรียญ Staking ที่ดีที่สุดในปี 2023
มีเหรียญคริปโตมากมายที่คุณสามารถใช้เพื่อสร้างรายได้จากการ Stake
โดยเมื่อพิจารณาถึงอัตราดอกเบี้ยและสถานการณ์ของตลาดในตอนนี้แล้ว เราคิดว่าเหรียญ Staking ที่ดีที่สุดในปีนี้ ได้แก่
- Wall Street Memes – แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมาจาก Wall St Bulls NFT ที่ได้เปิดตัวเหรียญมีมในช่วงพรีเซลล์และมีผู้ติดตามมากกว่าล้านคนบนโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ยังเป็นเหรียญ Staking ที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 119% พร้อมระดมทุนได้มากกว่า 25 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 12 สัปดาห์
- Bitcoin BSC – เหรียญ Staking มาใหม่ที่ระดมทุนได้มากกว่า 100,000 ดอลลาร์ในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง และมอบผลตอบแทนต่อปีสูงถึง 32,912% โดยเป็นเหรียญจำลอง Bitcoin บน BNB Smart Chain โดยมีราคาพรีเซลล์คงที่เพียง 0.99 ดอลลาร์เท่านั้น
- XRP20 – เหรียญ Staking รุ่นใหม่ของ XRP ของ Ripple ที่ให้ผลตอบแทนจากการ Staking สุดพิเศษและกลไกการเผาเหรียญทิ้งเพื่อลดอุปทาน โดยระดมทุนได้ตามเป้าที่ 3.68 ล้านดอลลาร์แล้ว พร้อมเปิดให้เทรดบน Uniswap แล้วเรียบร้อย
- BTC20 – แพลตฟอร์มเหรียญ Staking ล้ำสมัยที่นำเสนอโซลูชั่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและโอกาสในการสร้างรายได้มหาศาล ด้วยการสะท้อนเสน่ห์ในช่วงแรกของ Bitcoin ด้วยราคาโทเค็น 1 ดอลลาร์ และการทยอยปล่อยโทเค็นนาน 120 ปี พร้อมดมทุนได้ 6.05 ล้านดอลลาร์จากช่วงพรีเซลล์ และเปิดให้เทรดบน Uniswap แล้วในตอนนี้
- Quint – เหรียญ Staking โดยรวมที่ดีที่สุด
- Ethereum – เหรียญ Staking ยอดนิยมสำหรับนักลงทุนระยะยาว
- Cardano – เหรียญ Staking ที่ยั่งยืน พร้อมให้ผลตอบแทนสูง
- Uniswap – เหรียญ Staking แบบกระจายอำนาจ พร้อมให้ผลตอบแทนมากที่สุดในตลาด
- Solana – เหรียญ Staking ที่มีแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว
- Polkadot – เหรียญ Staking ที่ใช้อัลกอริทึม NPoS
- Polygon – เหรียญ Staking ที่ให้ผลตอบแทนต่อปีในระดับสูง
- Algorand – เหรียญ Staking แบบ PPoS
- Chainlink – เหรียญ Staking ยอดนิยมที่น่าลงทุนสำหรับการทำงานร่วมกันของ Blockchain
- The Graph – เหรียญ Staking ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
คุณจะเจอคำตอบว่าทำไมรายการด้านบนคือเหรียญ Staking ที่ดีที่สุด และคุณจะเข้าใจวิธีทำเงินจากคริปโตเคอเรนซี่มากขึ้น
นอกจากนี้ เราจะแสดงวิธีซื้อเหรียญคริปโตและเริ่ม Stake เหรียญโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแพงๆ
เจาะลึกกับเหรียญ Staking ที่ดีที่สุด
เหรียญ Staking ที่ดีที่สุดก็คือเหรียญที่มอบผลตอบแทนได้สูง ซึ่งรายได้ที่คุณจะได้รับนั้นจะขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกแพลตฟอร์มใดและกำหนดระยะเวลาเท่าไหร่ในการ Stake เหรียญ
เราจึงวิเคราะห์เหรียญ Staking ที่ดีที่สุดในปี 2023 ไว้ด้านล่าง
1. Wall Street Memes – เหรียญ Staking ที่มุ่งเน้นชุมชนมาแรงพร้อมอัตราผลตอบแทนต่อปีสูงถึง 119% พร้อมระดมทุนได้กว่า 25 ล้านดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อย
มีเหรียญคริปโตมาใหม่มากมายที่เปิดตัวท่ามกลางความเจริญรุ่งเรืองของเหรียญมีม แต่กลับขาดทีมที่มีทักษะและฐานผู้ใช้งานขนาดใหญ่ ซึ่ง Wall Street Memes ก็โดดเด่นขึ้นมาและยังเป็นเหรียญมีมใหม่ที่มาแรงจากตลาดเหตุการณ์ตลาดขาขึ้นของ GameStop อันเลื่องลือเมื่อปี 2021
โปรเจกต์ถูกสร้างโดยแบรนด์ Wall St Bulls ที่มีผู้ติดตามมากกว่าหนึ่งล้านคนบนโซเชียลมีเดีย โดยพรีเซลล์ $WSM ระดมทุนได้มากกว่า 25 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 12 สัปดาห์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนจากชุมชนที่แข็งแกร่ง
ส่วนบริการ Wall Street Memes Stake จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เพิ่มจำนวนเหรียญที่ถือของตัวเอง ด้วยอัตราผลตอบแทนต่อปีโดยประมาณ (APY) ที่ 119% จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มผลตอบแทนให้มากที่สุด
รางวัลอยู่ที่ 75 โทเค็น WSM ต่อบล็อก และมีโทเค็น WSM 168,484,313 ที่ถูก Stake แล้วเรียบร้อย
โทเค็น $WSM มีราคาอยู่ที่ 0.0337 ดอลลาร์ โดยจะมีราคาเพิ่มขึ้นเมื่อเข้ากระดานเทรด และเนื่องด้วยมูลค่าตลาดที่ต่ำ เหรียญคริปโตใหม่ๆ จึงสามารถให้ผลตอบแทนสูงแม้จะมีความเสี่ยงในช่วงพรีเซลล์ก็ตาม โดยเฉพาะโปรเจกต์ที่ได้รับการสนับสนุนจากชุมชนอย่างมั่นคง ซึ่งจะมีแนวโน้มที่ดีในระยะยาวนั่นเอง
Wall Street Memes มีเป้าหมายที่จะ “เปลี่ยนแรงขับเคลื่อนให้กลายเป็นโทเค็น” โดยให้ผู้ใช้ได้กำไรจาก “เหรียญมีม” ที่ถูกมองว่าขาดคุณค่าที่แท้จริง
จากเหตุการณ์ขาขึ้นของหุ้น GameStop จากฝีมือของนักลงทุนรายย่อยใน Reddit ที่สามารถเอาชนะนักขายชอร์ตในวอลล์สตรีท เหตุการณ์ดังกล่าวได้จุดประกายความสนใจให้กับเหรียญมีมคริปโต ซึ่งนำไปสู่การสร้างโทเค็น Wall Street Memes
เอกสารข้อมูล Wall Street Memes ระบุว่าอุปทานโทเค็นอยู่ที่ 2,000,000,000 โดยไม่มีสำรองไว้ให้กับทีมงาน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในโกง โดยมีเป้าระดมทุนที่ 30,577,000 ดอลลาร์
50% ของโทเค็นจะพร้อมให้เทรด ส่งผลให้มีมูลค่าตลาดที่ 61,144,000 ดอลลาร์เมื่อเปิดตัว โดย Wall Street Memes ก็ได้ดึงดูดความสนใจมากมายบนโซเชียลมีเดีย ทั้งยังได้รับความสนใจจาก Elon Musk อีกด้วย เข้าร่วมช่อง Wall Street Memes Telegram สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพลตฟอร์มที่นี่
เพดานเงินทุน
$30,577,000
โทเค็นทั้งหมด
2 พันล้าน
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์
1 พันล้าน
Blockchain
เครือข่าย Ethereum
ประเภทโทเค็น
ERC-20
ซื้อขั้นต่ำ
100 โทเค็น
วิธีการชำระเงิน
USDT, ETH
2. Bitcoin BSC – เหรียญ Staking ยอดนิยมแห่งปี 2023 ในธีม Bitcoin พร้อมอัตราผลตอบแทนที่ 32,912% ต่อปีโดยประมาณ
Bitcoin BSC ($BTCBSC) เป็นโทเค็นที่เพิ่งเปิดตัวไม่นานที่สะท้อนถึง Tokenomics ของ Bitcoin เมื่อปี 2011 ซึ่งหมายความว่ามีเหรียญ 21 ล้านเหรียญ โดยเปิดขาย 6.125 ล้านเหรียญในช่วงพรีเซลล์ที่ราคา 0.99 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม โปรเจกต์ดังกล่าวยังมีอะไรให้มากกว่าแค่การเลียนแบบราคาและอุปทาน Bitcoin เมื่อปี 2011 อีกด้วย
ในขณะที่เขียนอัตราผลตอบแทนอยู่ในช่วง 32,912% โดยเป็นเหรียญจำลอง Bitcoin ที่รองรับโมเดลการ Staking ซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนเหรียญที่ผู้ใช้มีส่วนร่วมซึ่งสัมพันธ์กับจำนวนเหรียญโดยรวมที่นำไป Stake หมายความว่าผู้ใช้ที่ Stake เหรียญของตนก่อนหน้านี้จะได้รับผลตอบแทนต่อปีที่สูงมาก ซึ่งจะลดลงอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป เช่นเดียวกับพรีเซลล์อื่นๆ ซึ่งยิ่งเข้าร่วมเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีกว่าเท่านั้น แม้ว่าราคาของเหรียญนี้จะคงที่ตลอดช่วงพรีเซลล์ก็ตาม
กลไกการ Staking ที่ว่าจะทำผ่าน BNB Smart Chain ซึ่งเป็นโทเค็นที่แตกออกมาอีกสาย ไม่ใช่ Bitcoin Fork เช่น Bitcoin Gold หรือ Bitcoin Cash แต่เป็นการใช้งานที่แยกจากกันโดยสิ้นเชิงนั่นเอง โดย BNB Smart Chain เป็นที่รู้จักว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวดเร็ว ราคาไม่แพง และรองรับสัญญาอัจฉริยะได้ หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็น Blockchain แบบ Proof of Stake ซึ่งเหนือกว่าระบบ Proof of Work ที่เลิกใช้กันแล้วในปัจจุบันแทบทุกด้าน
เนื่องจากรูปแบบแห่งนวัตกรรมซึ่งสามารถดึงดูดผู้ที่พลาดการเปิดตัวเหรียญ Bitcoin ดั้งเดิม Bitcoin BSC จึงอาจมีราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน ส่วนเหรียญเลียนแบบ Bitcoin อื่นๆ เช่น BTC20 ก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้กว่า 600% อย่างรวดเร็วหลังจากเสร็จสิ้นพรีเซลล์ไม่นาน
การรวมกันของผลตอบแทนจาก Staking, Tokenomics ของ Bitcoin, และ BNB Smart Chain อาจเป็นส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมซึ่งส่งผลให้ทั้งปริมาณการซื้อขายและราคาเพิ่มขึ้นนั่นเอง
ผู้ใช้จำเป็นต้องมี Web 3.0 Wallet ที่ใช้งานร่วมกันได้ โดย BNB, USDT, บัตรเครดิต, หรือ ETH ก็ต่างเป็นวิธีการชำระเงินที่ใช้ในการเข้าร่วมกับแพลตฟอร์ม
จำนวนการซื้อเหรียญขั้นต่ำคือ 10 ดอลลาร์และสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเอกสารข้อมูล, Twitter, และ Telegram
เพดานเงินทุน
$6,063,750
โทเค็นทั้งหมด
21 ล้าน
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์
6.125 ล้าน
Blockchain
BNB Smart Chain
ประเภทโทเค็น
BEP-20
ซื้อขั้นต่ำ
$10
วิธีการชำระเงิน
USDT, ETH, BNB, บัตรเครดิต
3. XRP20 – เหรียญ Staking ออกใหม่บน Ethereum พร้อมให้ผลตอบแทนสูงและอยู่บน Uniswap แล้วเรียบร้อย
XRP20 เป็นการพัฒนามาจากโทเค็น XRP ที่รู้จักกันดี และกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุน ท่ามกลางการฟื้นตัวของตลาดอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งแตกต่างจาก XRP ดั้งเดิมตรงที่ XRP20 สร้างขึ้นบน Ethereum Blockchain ซึ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับนักเทรดรายย่อยด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น ระบบ On-chain Staking และกลไกการเผาเหรียญทิ้งอันเป็นเอกลักษณ์
จากอุปทานโทเค็นทั้งหมด 100 พันล้าน XRP20 ได้จัดสรร 40 พันล้านเพื่อการ Staking เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถ Stake โทเค็นและรับรายได้แบบพาสซีฟ
เอกสารข้อมูล XRP20 อธิบายว่า 40% ของอุปทานถูกสำรองไว้สำหรับการพรีเซลล์หนึ่งรอบ โดยกำหนดราคาโทเค็นที่ 0.000092 ดอลลาร์ต่อโทเค็น ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าจุดราคาต่ำสุดของ XRP ถึง 30 เท่า และต่ำกว่าราคา All Time Highถึง 137,000% เลยทีเดียว
ในตอนนี้ XRP20 เปิดให้เทรดบน Uniswap หลังจากขายหมดไปอย่างรวดเร็วในช่วงพรีเซลล์และระดมทุนได้ตามเป้าที่ 3.68 ล้านดอลลาร์
แพลตฟอร์มนี้ยังรองรับกลไกการเผาเหรียญทิ้งเพื่อลดอุปทานอีกด้วย โดยจะเผาเหรียญทิ้ง 0.1% ของธุรกรรมการซื้อและขายทั้งหมด และ 10% ของอุปทานทั้งหมดจะถูกส่งไปยัง Wallet สำหรับเผาเหรียญ
ทางโปรเจกต์ยังสร้างความฮือฮาในชุมชนนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากชัยชนะล่าสุดของ Ripple ระหว่าง ก.ล.ต. และความเป็นไปได้ที่จะกลับเข้ามาในกระดานเทรด Coinbase
อย่างไรก็ตาม XRP20 มีมากกว่าแค่การเชื่อมโยงกับ XRP ดั้งเดิม ด้วยผลตอบแทนจาก Staking ที่สูงและกลไกการเผาเหรียญทิ้งแบบสองเท่า XRP20 จะหาทางในการเพิ่มมูลค่าเพิ่มเติมให้กับผู้ถือและผู้ที่สนใจลงทุน ด้วยราคาเริ่มต้นที่ต่ำและความคล้ายคลึงกับโปรเจกต์ Ripple ที่ได้รับความนิยม ทำให้เป็นโอกาสการลงทุนระยะยาวที่น่าสนใจไม่น้อย
เช่นเดียวกับทุกการลงทุนใดๆ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและความเข้าใจเหรียญอย่างละเอียดถือเป็นสิ่งสำคัญ และผู้ใช้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมได้ที่ช่อง XRP20 Telegram สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
4. BTC20 – เหรียญ Staking ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่งเข้ากระดานเทรด Uniswap
BTC20 เป็นแพลตฟอร์ม Staking ใหม่ล่าสุดที่ใช้งานโปรโตคอล ERC-20 และผสมผสานความเป็น Bitcoin แบบคลาสสิกเข้ากับฟีเจอร์ที่ทันสมัย
ฟีเจอร์ที่สำคัญของ BTC20 คือโอกาสในการสร้างรายได้ผ่านการ Staking โดยทำตามกำหนดการให้รางวัลบล็อกดั้งเดิมของ Bitcoin ทำให้สามารถปล่อยโทเค็นเป็นระยะเวลา 120 ปีได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ Stake เหรียญในช่วงแรกจะได้รับรางวัลมากขึ้น ซึ่งช่วยส่งเสริมการใช้งานเหรียญตั้งแต่เนิ่นๆ
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1 ดอลลาร์ต่อโทเค็นในช่วงพรีเซลล์ ซึ่งสะท้อนถึงเสน่ห์ของราคา Bitcoin เมื่อ 2011 ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัวในกระดานเทรด Uniswap มูลค่าของ BTC20 ก็เพิ่มขึ้น 500% และทำมูลค่าตลาดได้ที่ 40 ล้านดอลลาร์ โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวยังสามารถระดมทุนในช่วงพรีเซลล์ไปได้ 6.05 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงสองสัปดาห์อีกด้วย
ด้วยแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม BTC20 ใช้ระบบ Proof-of-Stake (PoS) เพื่อหลีกเลี่ยง Proof-of-Work ที่ใช้พลังงานมากของ Bitcoin แบบดั้งเดิม วิธีการนี้เพิ่มความยั่งยืนในขณะที่สร้างรายได้ผ่านการ Staking ที่สำคัญ ตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการวาง Stake BTC20 มูลค่า 5,000 จะสามารถให้ผลตอบแทน 26,000 BTC20 ต่อปี หรือคิดเป็นผลตอบแทนต่อปีที่ 520% เลยทีเดียว
BTC20 ให้ความสำคัญกับความโปร่งใส โดยจัดหาอุปทานทั้งหมดให้กับสาธารณะและให้รางวัลผู้มีส่วนร่วมตามโทเค็นที่ Stake ไว้
แผนของแพลตฟอร์มสอดคล้องกับกำหนดการของ Bitcoin โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาระยะยาว ความปลอดภัยในการ Staking แอพพลิเคชัน สิทธิ์ในการกำกับดูแล และการบุกเบิก dApp
ด้วยการเอาใจใส่ด้านสิ่งแวดล้อมของ BTC20 การปล่อยโทเค็นที่มั่นคง ศักยภาพในการสร้างรายได้ และความมุ่งมั่นในการกระจายอำนาจ จึงทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับแพลตฟอร์ม Staking แบบดั้งเดิม
ผู้ใช้ที่สนใจก็สามารถเข้าร่วมได้ที่ช่อง BTC20 Telegram เพื่อรับการอัพเดตล่าสุด
5. Quint – เหรียญ Staking โดยรวมที่ดีที่สุด
Quint โดดเด่นขึ้นมาจากการเป็นเหรียญ Staking โดยรวมที่ดีที่สุดในปี 2023 ซึ่งสามารถทำในสิ่งที่โทเค็นอื่นๆ ทำไม่ได้ เช่น มีรางวัลให้จริงๆ นอกเหนือจากดอกเบี้ยคริปโตจากการ Staking โดยทีมงาน Quint มีกองรางวัล 2 ชุดที่เรียกว่า Super-Staking Pools
กองรางวัลชุดแรกก็คือ Luxury Raffle Pools เมื่อผู้ใช้ Stake โทเค็น QUINT ลงในกองนี้ ผู้ใช้จะได้เข้าร่วมการจับสลากสุดหรู ซึ่งรวมถึงห้องพักในโรงแรมหรู แพ็คเกจท่องเที่ยว รถยนต์ราคาแพง และอื่นๆ
อีกชุดหนึ่งก็คือ Quintessential Pools ซึ่งจะรับประกันการมอบของรางวัลเป็น Airdrops NFT โดย NFT ดังกล่าวจะเป็นห้องในโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน ประสบการณ์นั่งรถซูเปอร์คาร์ และอีกมากมาย รางวัลใน Quintessential Pools จะหมุนเวียนกัน แต่ผู้ถือโทเค็นจะมีโอกาสได้รางวัลสุดหรูอยู่เสมอ
นอกจากโทเค็น Quint และกองรางวัลการ Stake แล้ว Quint ยังมี NFT มากมาย โดยการถือโทเค็น Quint และ NFT จะมอบสิทธิ์แก่ผู้ใช้ในการเข้าถึง Metaverse Arts Club ของทางแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นโซเชียลคลับที่ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับคนที่ชอบไลฟ์สไตล์สุดหรูหราเหมือนกันนั่นเอง
Quint เปิดให้แลกกับเหรียญ BNB ผ่านกระดานเทรด PancakeSwap DEX โดยเหรียญมีค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่ 10% แม้อาจจะฟังดูแพงไปหน่อย แต่เงินที่ได้จากการทำธุรกรรมจะถูกใช้ในการพัฒนาเกมคริปโต Play to Earn บนแพลตฟอร์ม ซึ่งจะเปิดให้ผู้ถือโทเค็น Quint เข้าใช้งานได้ในอนาคต
6. Ethereum – เหรียญ Staking ยอดนิยมสำหรับนักลงทุนระยะยาว
ระบบนิเวศของ Ethereum นั้นเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดและดึงดูดการลงทุนจากทั้งนักพัฒนาและนักลงทุน อย่างไรก็ตาม เหรียญมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับสองนี้ก็ใช้งานกลไกการขุด (PoS) ซึ่งหมายความว่าในการตรวจสอบการทำธุรกรรม คอมพิวเตอร์จะต้องทำงานผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อนซึ่งต้องใช้พลังงานและเวลามหาศาล
แต่ด้วยการอัพเกรดล่าสุด Ethereum ก็ได้เปลี่ยนไปใช้กลไกการ Stake เหรียญ (PoS) ซึ่งทำให้ ETH กลายเป็นหนึ่งในเหรียญ Staking ที่ดีที่สุดในการสร้างรายได้แบบพาสซีฟ โดยในการเริ่ม Staking เหรียญ Ethereum ด้วยตนเองนั้นต้องใช้เหรียญค่อนข้างมาก (ต้อง Stake เหรียญขั้นต่ำที่ 32 ETH)
โดยวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือต้องถือเหรียญ Ethereum ไว้ในกอง Staking ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องปล่อยกู้โทเค็นให้แก่ผู้ตรวจสอบในการใช้งาน ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่จำเป็นต้อง Stake เหรียญ ETH จำนวนมากๆ โดยแพลตฟอร์มที่คุณเลือก Staking และระยะเวลาการล็อคเหรียญก็จะให้ผลตอบแทนแตกต่างกันไป
7. Cardano – เหรียญ Staking ที่ยั่งยืน พร้อมให้ผลตอบแทนสูง
Cardano เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโต Proof of Stake (PoS) ที่มีชื่อเสียงที่สุดในปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการขยายเครือข่ายและความยั่งยืน
ทางเครือข่ายจะเข้ามาแก้ไขปัญหาการใช้พลังงานในการขุด Bitcoin ดังนั้นจึงเรียกตัวเองว่าเป็นเหรียญคริปโตรักษ์โลกเมื่อเปรียบเทียบกับเหรียญคริปโตอื่นๆ
นับตั้งแต่เข้าสู่ตลาดคริปโต เหรียญดังกล่าวก็ทำราคาได้ยอดเยี่ยม ซึ่งติดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 4,500% นอกจากนี้ ด้วยเครือข่ายที่เปิดตัวระบบสัญญาอัจฉริยะของตัวเอง Cardano จึงอยู่มีโอกาสที่จะเติบโตต่อไปในอนาคตได้อีกด้วย
และด้วยความนิยม คุณจะพบว่ามีแพลตฟอร์ม Staking มากมายที่รองรับCardano เช่น Crypto.com และ eToro ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ด้วยเหตุผลเดียวกัน คุณอาจพบว่าดอกเบี้ยที่ให้นั้นจะแตกต่างกันไปอย่างมากจากแต่ละกระดาน
นอกจากนี้ยังมีกระดานเทรดอีกมากมายที่เปิดโอกาสให้ได้รับดอกเบี้ยจาก Cardano – ผ่านการกู้เหรียญคริปโต ซึ่งเป็นวิธีการทางเลือกในการ Staking
8. Uniswap – เหรียญ Staking แบบกระจายอำนาจ พร้อมให้ผลตอบแทนมากที่สุดในตลาด
ถ้าคุณกำลังมองหาเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดสำหรับ Staking เหรียญ Uniswap ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่ควรพิจารณา ในความเป็นจริง Uniswap มีการซื้อขายที่ประมาณ 25% ของธุรกรรมรายวันบนเครือข่าย Ethereum และด้วย Uniswap V3 เวอร์ชันล่าสุด โปรโตคอลจึงสามารถจัดการเพื่อลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมให้ต่ำลงไปอีก ทำให้เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตอันดับต้นๆ ที่น่าซื้อในปี 2023
เมื่อพูดถึงการ Staking ทาง Uniswap ก็เป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับนักลงทุนคริปโตแบบพาสซีฟ และไม่ใช่แค่นั้น เมื่อพิจารณาจากศักยภาพแล้ว Uniswap ยังถือว่าเป็นหนึ่งใน Cryptocurrency ที่ถูกประเมินค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็นในปี 2023 อีกด้วย ด้วยการลงทุนใน Uniswap คุณอาจได้รับประโยชน์จากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของเหรียญ UNI และยังสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีการทำงานของเครือข่ายอีกด้วย
หากคุณเป็นเจ้าของเหรียญ UNI อยู่แล้ว คุณก็สามารถ Stake เหรียญไว้ในกลุ่มสภาพคล่องของ Uniswap หรือรับรางวัลโดยการฝากโทเค็นของคุณบนแพลตฟอร์ม เช่น Crypto.com แม้ว่าการ Staking บนเครือข่าย Uniswap จะต้องห้คุณต้องล็อคทรัพย์สินของคุณ และทางผู้ให้บริการจะอนุญาตให้คุณถอนโทเค็น UNI ของคุณได้ทุกเมื่อที่จำเป็น
9. Solana – เหรียญ Staking ที่มีแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว
Solana เป็นอีกหนึ่งโทเค็น DeFi ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถขยายเครือข่ายได้ โดยเป็น Blockchain ที่สามารถทำธุรกรรมได้รวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำ ซึ่งส่งผลให้เหรียญมีราคาเพิ่มขึ้นเมื่อปี 2021 โดยราคาของ Solana เพิ่มขึ้นจากประมาณ 18 ดอลลาร์เป็นมากกว่า 100 ดอลลาร์ในช่วงเวลาเพียงแค่หนึ่งปี
แม้ว่ามูลค่าของ Solana จะลดลงตั้งแต่ต้นปี 2023 แต่เหรียญก็ยังคงรักษาโมเมนตัมในหมู่นักพัฒนาได้ และเมื่อคุณนำเหรียญดังกล่าวไป Stake คุณก็น่าจะสามารถคาดหวังผลตอบแทนต่อปีได้ระหว่าง 7 ถึง 11% ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่คุณเลือก
คุณสามารถเพิ่มโทเค็น Solana ไปยัง Crypto Wallet ที่รองรับการ Staking หรือฝากเหรียญของคุณไปที่บัญชีดอกเบี้ยคริปโตของ Crypto.com ได้ และเพื่อเข้าร่วม คุณก็สามารถซื้อ Solana จากโบรกเกอร์ที่เหมาะกับมือใหม่อย่าง eToro ได้เช่นกัน
10. Polkadot – เหรียญ Staking ที่ใช้อัลกอริทึม NPoS
Polkadot นั้นแตกต่างจากกลไก PoS ทั่วไป โดยเหรียญถูกสร้างขึ้นบนกลไก Nominated Proof of Stake กลไกการโดยในระบบนี้ ผู้ถือเหรียญจะสนับสนุนผู้ตรวจสอบความถูกต้องหลายคนเพื่อแสดงให้เห็นถึงศรัทธาในพฤติกรรมการใช้งานของพวกเขา และด้วยเหตุนี้ หากคุณเลือกผู้ตรวจสอบที่ไร้ประสิทธิภาพ คุณก็มีแนวโน้มที่จะสูญเสียเหรียญได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเป็นตัวแทนให้กับ Polkadot นั้นยุ่งยากและมีข้อกำหนดที่ไม่เอื้ออำนวยนัก นักลงทุนหลายคนจึงเลือกที่จะเป็นผู้ถือเหรียญหรือฝากทรัพย์สินของตนเข้าใน Staking Pool แทน และยิ่งไปกว่านั้น Polkadot ยังจ่ายรางวัลเป็นโทเค็นที่น่าประทับใจอีกด้วย เนื่องจากจะมีการเสนอรางวัลตามสัดส่วนของการตรวจสอบธุรกรรม ไม่ใช่ตามขนาดของเหรียญที่นำไป Stake
บนแพลตฟอร์มเช่น Crypto.com คุณจะสามารถรับผลตอบแทนต่อปีได้สูงถึง 14.5% สำหรับ Polkadot ในแง่ของผลกำไรจากส่วนต่างในอนาคต Polkadot ก็ดูเหมือนจะมีศักยภาพในการเติบโตที่มั่นคง เพราะจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถเชื่อมโยง Blockchain หรือสร้างโปรโตคอลใหม่ๆ ได้นั่นเอง
11. Polygon – เหรียญ Staking ที่ให้ผลตอบแทนต่อปีในระดับสูง
Polygon เป็นเหรียญคริปโตที่ได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มความสามารถในการขยายเครือข่ายให้กับ Ethereum โดยเป็น Blockchain ที่สามารถเข้ากันได้สำหรับแอพพลิเคชันบนเครือข่าย Ethereum ซึ่งอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อระหว่างกัน นอกจากนี้ยังทำให้เป็นเหรียญคริปโตดีสำหรับการลงทุนในระยะยาว ปีนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะรับดอกเบี้ยจาก MATIC เช่นเดียวกับในปีที่ผ่านมาที่ Polygon มีราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 350%
Polygon ยังเป็นหนึ่งในเหรียญ Staking ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ตรวจสอบ โดยจะใช้แค่โทเค็น MATIC เพียงโทเค็นเดียวเพื่อเข้าร่วมในเครือข่าย และอย่างน้อยสองโทเค็นในการเริ่ม Staking เท่านั้น หากคุณไม่ต้องการเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้องด้วยตนเอง คุณก็สามารถใช้แพลตฟอร์มเช่น Crypto.com เพื่อทำผลตอบแทนบน Polygon ได้อีกด้วย
ในขณะที่เขียนบทความนี้ Crypto.com เสนอผลตอบแทนต่อปีสูงถึง 10% สำหรับผู้ที่ถือโทเค็น Polygon เป็นเวลาสามเดือน แน่นอนว่าอัตราดังกล่าวจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระยะเวลาล็อคเหรียญ และไม่ว่าคุณจะตัดสินใจ Stake โทเค็น CRO ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของ Crypto.com หรือไม่ก็ตาม
12. Algorand – เหรียญ Staking แบบ PPoS
เหรียญ Staking ที่ดีที่สุดส่วนใหญ่ที่เราได้รีวิวกันจนถึงตอนนี้จะใช้กลไก PoS ทั่วไป อย่างไรก็ตาม Algorand จะเหนือไปอีกขั้นหนึ่งพร้อมใช้ระบบ Pure PoS ที่ทำให้โปรโตคอลนี้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ Algorand Blockchain จึงไม่มีการอัพเกรด แต่ก็ยังสามารถทำธุรกรรมได้ทันทีนั่นเอง
ALGO ถือว่าเป็นหนึ่งในเหรียญ Staking อันดับต้นๆ เนื่องจากโปรโตคอลมีข้อกำหนดขั้นต่ำมากสำหรับผู้ตรวจสอบความถูกต้อง โดยจะแตกต่างกับ Ethereum ตรงที่คุณต้องใช้โทเค็น ALGO เพียงโทเค็นเดียวเพื่อเริ่ม Stake ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้พบกับ Staking Pool จำนวนมากสำหรับสินทรัพย์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ก็อาจเป็นเรื่องยากสำหรับแพลตฟอร์มที่จะเสนอผลตอบแทนต่อปีในอัตราที่สูง
อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนรวมของคุณจะขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์ม Staking ที่คุณเลือกในที่สุด หากคุณซื้อ Algorand และถือโทเค็นไว้ในบัญชีที่ดอกเบี้ย คุณก็สามารถคาดหวังผลตอบแทนรายปีในช่วง 3-10% ของการลงทุนทั้งหมดของคุณ
13. Chainlink – เหรียญ Staking ยอดนิยมที่น่าลงทุนสำหรับการทำงานร่วมกันของ Blockchain
Chainlink ถือเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนในตอนนี้ โดยทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมโยงระหว่าง Blockchain และข้อมูลในโลกจริง ในบรรดาระบบ Oracle อื่นๆ Chainlink นั้นดูเหมือนจะเป็นระบบที่ทันสมัยที่สุดเนื่องจากมีการปรับใช้เทคโนโลยีและมีพันธมิตรมากมาย
แม้ว่าการ Staking จะยังไม่ได้รับการสนับสนุนภายในเครือข่าย Chainlink แต่คุณก็สามารถฝากเหรียญคริปโตนี้ไปยังแพลตฟอร์ม Third Party เพื่อสร้างรายได้จากโทเค็นของคุณได้
หากคุณเลือกที่จะซื้อ Chainlink และถือเหรียญไว้ในระยะยาวเพื่อรอเพิ่มมูลค่าเงินทุน คุณก็สามารถลงทุนสินทรัพย์ของคุณในบัญชีดอกเบี้ยคริปโตและรับผลตอบแทนต่อปีสูงถึง 9% ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่คุณเลือก
14. The Graph – เหรียญ Staking ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
The Graph เป็นเหรียญคริปโตที่กำลังมาแรงซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างระบบดัชนีสำหรับBlockchain เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลบน Blockchain ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการย้ายข้อมูลที่ไม่จำเป็นไปยังโปรโตคอล Off-chain อีกด้วย
ดังที่เห็นได้ชัด The Graph มีโอกาสสูงที่ราคาจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะยาว โดยตัวเหรียญถูกเปิดตัวในช่วงปลายปี 2021 และกำลังหาทางลิสต์เข้ากระดานเทรดคริปโตยอดนิยม อย่างไรก็ตาม คุณจะยังสามารถซื้อ The Graph ด้วยค่าธรรมเนียมต่ำผ่านแพลตฟอร์ม eToro ได้
เนื่องจากนี่เป็น Blockchain ที่ใช้งานกลไก PoS เหรียญนี้จึงสามารถ Stake บนแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมได้มากมาย ซึ่งบางแพลตฟอร์มก็เสนอผลตอบแทนต่อปีสำหรับ GRT ในระดับสูงทีเดียว
Stake เหรียญที่ไหนดี
มีแพลตฟอร์มมากมายที่ให้คุณสร้างรายได้แบบพาสซีฟจากการ Stake เหรียญยอดนิยมดังกล่าว
เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราได้พิจารณาแพลตฟอร์ม Staking เหรียญคริปโตยอดนิยมไว้แล้ว ซึ่งทั้งใช้งานง่ายและมีค่าธรรมเนียมในการ Stake เหรียญคริปโตต่ำอีกด้วย
1. AQRU – แพลตฟอร์ม Staking โดยรวมที่ดีที่สุด
หากคุณเพิ่งรู้จักกลไกการ Staking เหรียญคริปโต AQRU อาจจะดึงดูดใจคุณได้ด้วยหน้าตาการใช้งานที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา โดยแพลตฟอร์มปล่อยสินเชื่อชั้นนำนี้เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานในการสร้างรายได้แบบพาสซีฟจากสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณ
โดยคุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจเทคนิคหรือคำศัพท์เฉพาะใดๆ โดย AQRU มีแอพคลิปโตบนมือถือให้บริการ ซึ่งช่วยคุณซื้อและ Stake เหรียญได้แม้ไม่อยู่บ้าน AQRU ยังให้ดอกเบี้ย 7% ต่อปีจากเหรียญ Ethereum ซึ่งเป็นหนึ่งในโทเค็นที่ดีที่สุดที่เราได้พูดถึงไป
นอกจากนี้ AQRU ยังรองรับบัญชีดอกเบี้ยคริปโตที่มอบผลตอบแทนเหมือน APY โดยคุณสามารถรับได้ถึง 12% ต่อปีสำหรับเหรียญที่มีมูลค่าคงที่ เช่น Tether, USD Coin และ Dai ซึ่งนับว่าเป็นอัตราที่สูงมากๆ
AQRU ยังมอบผลตอบแทนสูงแก่ผู้ใช้โดยการปล่อยสินเชื่อสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ผู้กู้ แต่ก็หลังจากได้ตรวจสอบทรัพยากรและสินทรัพย์ของผู้กู้อย่างถี่ถ้วนแล้วเท่านั้น โดยคุณสามารถติดตามผลตอบแทนของคุณได้ในหน้าหลักของ AQRU และรับดอกเบี้ยเป็นรายวัน
หากพูดถึงการถอนเงิน คุณก็สามารถเลือกได้ว่าจะถอนเป็นเหรียญคริปโตหรือสกุลเงินทั่วไป และสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับ AQRU ก็คือจะไม่มีระยะเวลาการล็อคใดๆ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถถอนเหรียญคริปโตได้ทุกเมื่อหากต้องการ
อย่างไรก็ตาม คุณก็ควรทราบถึงเงื่อนไขบางข้อ ข้อแรก คุณจะต้องฝากเงินขั้นต่ำ $100 เพื่อเปิดบัญชี ข้อสอง แม้จะไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝาก แต่คุณจะต้องจ่าย $20 เมื่อทำการถอนเงิน และในตอนนี้ AQRU รองรับเพียงแค่ 5 เหรียญคริปโตเท่านั้น
เหรียญ Staking ที่มี | Bitcoin, Ethereum, Tether, USD Coin และ Dai |
รางวัล Staking ของเหรียญคริปโต | BTC และ ETH – 7%
เหรียญที่มีมูลค่าคงที่ (USDT, USDC, DAI) – 12% |
จำนวนการ Staking ต่ำสุดและสูงสุด | ขั้นต่ำ $100 (หรือเทียบเท่า) และไม่มีจำนวนสูงสุด |
ระยะเวลาการล็อค | ถอนได้ตลอดเวลา |
ระยะเวลาในการจ่ายดอกเบี้ย | รายวัน |
ข้อดี
- อัตราดอกเบี้ยสูง
- สร้างรายได้แบบพาสซีฟผ่านเหรียญที่มีมูลค่าคงที่และคริปโต
- ถอนเงินได้เป็นเหรียญคริปโตและสกุลเงินทั่วไป
ข้อเสีย
- รองรับเหรียญคริปโตเพียง 5 เหรียญ
สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล
2. eToro – แพลตฟอร์ม Staking เหรียญคริปโต พร้อมค่าธรรมเนียมแสนถูก
eToro เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์เหรียญคริปโตยอดนิยมในตลาด ด้วยผู้ใช้งานกว่า 20 ล้านคน eToro นั้นได้รับการกำกับดูแลโดยหลายหน่วยงาน ได้แก่ FCA, CySEC, ASIC, และ ก.ล.ต. นอกจากนี้ eToro ยังเข้าถึงง่ายและเป็นมิตรต่อนักลงทุนทุกระดับ
eToro นั้นใช้งานง่ายและเปิดให้คุณเข้าซื้อเหรียญ Staking ที่ดีที่สุดที่เราได้กล่าวไป eToro ยังรองรับเหรียญ Staking 3 รายการ ได้แก่ Cardano, Ethereum และ Tron โดยอัตราดอกเบี้ยที่คุณได้รับนั้นขึ้นอยู่กับ eToro Club ที่คุณเป็นสมาชิก ซึ่งถูกกำหนดโดยหุ้นที่คุณถือไว้บนแพลตฟอร์ม
เช่น สมาชิกระดับ Diamond และ Platinum+ จะมีสิทธิ์ได้รับผลตอบแทนจากการ Stake ถึง 90% ต่อเดือน ผู้ใช้ระดับ Silver, Gold, และ Platinum จะได้รับ 85% ส่วนผู้ใช้เริ่มต้นของ eToro ก็จะอยู่ในระดับ Bronze ซึ่งจะได้รับผลตอบแทน 75% ต่อเดือน
eToro นั้นมอบรางวัลอย่างสูงเมื่อทำการ Stake บนแพลตฟอร์ม แม้เหรียญ Staking จะมีไม่มากในตอนนี้ แต่คุณสามารถซื้อคริปโตได้หลายสิบเหรียญที่ eToro นอกจากนั้น แพลตฟอร์มยังมี Crypto Wallet ในตัวให้คุณเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลได้ฟรีๆ
เมื่อคุณต้องการขายเหรียญคริปโต eToro ก็คิดค่าธรรมเนียมในราคาแสนถูก ส่วนการซื้อเหรียญคริปโต คุณก็สามารถฝากเงินเข้าไปในบัญชี eToro ด้วยการโอนเงินผ่านธนาคาร บัตรเครดิต/เดบิต หรือ e-wallet ได้
ที่สำคัญ เมื่อคุณฝากเงินเข้าบัญชีด้วยสกุลเงินดอลลาร์ eToro จะไม่คิดค่าธรรมเนียมการฝากใดๆ นอกจากเหรียญคริปโตแล้ว eToro ยังเป็นโบรกเกอร์ที่ให้คุณได้ลงทุนในหุ้น, กองทุน ETF, สินค้าค้าโภคภัณฑ์, และ Forex ได้อีกด้วย ทั้งยังมีแอพบนมือถือที่ใช้งานง่ายเช่นกัน
เหรียญ Staking ที่มี | Cardano, Tron, Ethereum |
รางวัล Staking ของเหรียญคริปโต | เริ่มต้นที่ 75% และแตกต่างไปตาม eToro Club ที่คุณเป็นสมาชิก |
จำนวนการ Staking ต่ำสุดและสูงสุด | การลงทุนจะให้ผลตอบแทนอย่างน้อย $1 เป็นรางวัลจากการ Stake |
ระยะเวลาการล็อค | ไม่มีระยะเวลา แต่ควรถือสถานะซื้อไว้อย่างน้อย 9 วันสำหรับ Cardano และ 7 วันสำหรับ Tron |
ระยะเวลาในการจ่ายดอกเบี้ย | รายเดือน |
ข้อดี
- ได้รับการกำกับดูแลโดย FCA, CySEC, ASIC, และ ก.ล.ต.
- รองรับเหรียญคริปโตเกือบ 60 รายการ
- ฝากขั้นต่ำเพียง $10
- มีกระเป๋าเงินคริปโตฟรีๆ
ข้อเสีย
- มีเพียง 3 เหรียญคริปโตที่สามารถ Stake ได้
สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล
3. Crypto.com – แพลตฟอร์ม Staking ที่ดีที่สุดที่ให้ดอกเบี้ยสูง
Crypto.com เปิดตัวในปี 2016 กลายเป็นหนึ่งในกระดานเทรดคริปโตระดับโลกที่ดีที่สุด โดยเปิดตัวระบบนิเวศที่รองรับบริการที่เกี่ยวข้องกับเหรียญคริปโตที่หลากหลาย รวมถึงสินเชื่อ บัญชีดอกเบี้ย การเทรด บัตรเครดิต และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังรองรับเหรียญคริปโตมากกว่า 250 สกุลด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำและด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
หากคุณกำลังมองหาซื้อเหรียญคริปโต ทาง Crypto.com ก็ยังรองรับการชำระเงินผ่านแอพ โดยคุณสามารถชำระค่าเหรียญคริปโตด้วยสกุลเงินทั่วไปได้มากกว่า 20 สกุลเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิตของคุณ หรือโดยการโอนเงินผ่านธนาคาร
เมื่อพูดถึงบัญชีดอกเบี้ย Crypto.com จะเปิดโอกาสให้คุณได้รับรางวัลจากเหรียญคริปโตกว่า 50 สกุล ซึ่งรวมถึงเหรียญ Staking ที่ดีที่สุด 13 สกุลที่เราพูดถึงในบทความ เมื่อคุณฝากโทเค็นเข้าบัญชีที่ว่า ทาง Crypto.com จะใช้เหรียญดังกล่าวเพื่ออำนวยความสะดวกในการปล่อยสิ้นเชื่อสำหรับผู้ใช้ที่ผ่านการตรวจสอบคนอื่นๆ
โดยทางผู้กู้จะต้องชำระเงินกู้คืนพร้อมดอกเบี้ยซึ่งได้จ่ายออกไปให้คุณแบบรายวัน นอกจากนี้ Crypto.com ยังเพิ่มดอกเบี้ย ทำให้คุณมีโอกาสที่จะเพิ่มผลกำไรในระยะยาว ส่วนอัตราดอกเบี้ยก็จะขึ้นอยู่กับเหรียญและระยะเวลาล็อคที่คุณเลือก
เช่น หากคุณเลือกที่จะซื้อ Ethereum มูลค่า 1,000 ดอลลาร์และถือโทเค็นไว้ในบัญชีดอกเบี้ยเป็นเวลาสามเดือน คุณจะได้รับผลตอบแทน 5.5% ต่อปี
ในทางกลับกัน หากคุณถือ Polkadot ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน คุณจะได้รับ 10% แทน โดยจะรองรับแผนแบบยืดหยุ่นด้วย อย่างไรก็ตาม แผนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะให้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่ามาก ซึ่งคุณก็สามารถเพิ่มผลตอบแทนได้ด้วยการถือ CRO ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตหลักของทาง Crypto.com ได้
เหรียญ Staking ที่มี
รับรางวัลจากเหรียญคริปโตกว่า 50 สกุล
รางวัล Staking ของเหรียญคริปโต
สูงถึง 14.5% ขึ้นอยู่กับเหรียญคริปโต ระยะเวลาล็อค และโทเค็น CRO ที่คุณถือ
จำนวนการ Staking ต่ำสุดและสูงสุด
ขั้นต่ำจะขึ้นอยู่กับเหรียญ และสูงสุดได้ที่มูลค่า 500,000 ดอลลาร์
ระยะเวลาการล็อค
1 เดือน 3 เดือน และแผนแบบยืดหยุ่น
ระยะเวลาในการจ่ายดอกเบี้ย
รายวัน
ข้อดี
- รับดอกเบี้ยจากเหรียญคริปโตกว่า 50 สกุล
- ผลตอบแทนต่อปีสูงถึง 14.5%
- ซื้อเหรียญคริปโตได้มากกว่า 250 สกุล
ข้อเสีย
- ต้องใช้โทเค็น CRO เพื่อปลดล็อครางวัลที่สูงขึ้น
- แผนแบบยืดหยุ่นให้อัตราดอกเบี้ยต่ำ
สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล
การ Staking เหรียญคืออะไร?
การ Staking เหรียญ คือกระบวนการ Stake เหรียญ (PoS) ของบล็อกเชนต่างๆ ที่ให้คุณได้รับรางวัลเป็นเหรียญคริปโต ซึ่งคุณสามารถทำได้โดยเปิด Node ของตน หรือจะฝากเหรียญคริปโตเอาไว้ในกระดานเทรดที่รองรับการ Staking
การใช้กลยุทธ์การ Staking เหรียญคริปโตที่ไม่ได้ใช้งานนั้นจะมอบดอกเบี้ยให้คุณแทนที่จะถือเหรียญคริปโตเอาไว้เฉยๆ ในกระเป๋าเงินคริปโตจนกว่าคุณจะพร้อมขาย
นี่คือตัวอย่างวิธีการรับรางวัลจากการ Staking แบบย่อ
- สมมติว่าคุณต้องการ Stake เหรียญ Ethereum
- โดยแพลตฟอร์ม Stake ที่คุณเลือกจะมอบผลตอบแทนต่อปีของเหรียญ Ethereum ที่ 10%
- คุณตัดสินใจ Stake เหรียญ ETH มูลค่า $1,000 เป็นเวลา 6 เดือน
- ซึ่งหมายความว่าภายใน 1 ปี คุณจะได้รับผลตอบแทน $100 เป็นรางวัล
- ซึ่งจะคิดเป็น $50 ในระยะเวลา 6 เดือน
โปรดจำไว้ว่าผลตอบแทนจะถูกจ่ายเป็นโทเค็น ETH โดยมูลค่าของเหรียญ Ethereum นั้นอาจจะเพิ่มขึ้นระหว่างการ Staking ซึ่งแปลว่าจะผลตอบแทนจะสูงขึ้นนั่นเอง
การ Staking นั้นเป็นวิธีในการสร้างรายได้แบบพาสซีฟง่ายๆ โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยตอบแทนที่ค่อนข้างสูงของเหรียญคริปโต
ประโยชน์ของการ Staking เหรียญคริปโต
เมื่อคุณได้อ่านมาถึงตรงนี้ คุณจะเข้าใจว่าการ Stake เหรียญนั้นมีประโยชน์อย่างมาก เพื่อให้คุณเข้าใจมากขึ้น เราจะอธิบายประโยชน์ของการ Staking ดังนี้:
- การ Stake เหรียญคริปโตนั้นจะมอบผลตอบแทนจากเหรียญคริปโตแทนที่จะถือไว้เฉยๆ ไว้ในกระเป๋าคริปโต
- นอกจากนี้ คุณยังได้เก็บเหรียญคริปโตเอาไว้ในระหว่างการสร้างผลตอบแทนได้
- นักลงทุนหลายคนเลือกการ Stake เหรียญเพื่อลดความเสี่ยงเมื่อมูลค่าของเหรียญลดลง
ในอีกแง่หนึ่ง เมื่อคุณ Stake เหรียญคริปโต คุณก็จะได้รับผลตอบแทนไม่ว่ามูลค่าเหรียญจะเหลือเท่าไหร่ นอกจากนี้ หากคุณไม่ได้ล็อคเหรียญเอาไว้ คุณก็สามารถถอนเหรียญออกเพื่อนำไปขายได้ตลอดเวลา
วิธีการเลือกเหรียญ Staking ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
หากถามว่าจะ Staking เหรียญคริปโตไหนดีนั้นก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลตอบแทนต่อปีเพียงอย่างเดียว
หากคุณกังวลว่าจะ Staking เหรียญไหนดีนั้น คุณจะต้องพิจารณาถึงปัจจัยดังนี้
ระยะเวลาการล็อคเหรียญ
หนึ่งในปัจจัยที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกๆ ก็อาจจะเป็นระยะเวลาการ Staking เพื่อรับผลตอบแทน
วิธีที่ดีที่สุดก็คือการเลือกแผนที่มีความยืดหยุ่นที่ให้คุณสามารถเข้าถึงเหรียญคริปโตได้ตลอดเวลา
แม้แผนแบบตายตัวจะให้ผลตอบแทนต่อปีในระดับสูง แต่การล็อคเหรียญเอาไว้อาจทำให้คุณเสียโอกาสในตลาดได้นั่นเอง
จำนวนเหรียญที่มีจำกัด
เหรียญคริปโตที่มีจำนวนจำกัดจะทำให้มีอุปสงค์มากขึ้นในตลาด ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับการหาเหรียญ Staking ที่ดีที่สุด โดยเฉพาะมีโอกาสที่มูลค่าของโทเค็นสูงขึ้น
ตามหลักอุปสงค์อุปทานขั้นพื้นฐาน หากเหรียญคริปโตมีจำนวนจำกัด อุปสงค์ก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ราคาเพิ่มขึ้นและจะให้รางวัลการ Staking สูงขึ้นนั่นเอง
นอกจากเหรียญ Staking ที่ดีที่สุดที่กล่าวไป สินทรัพย์อย่าง Chainlink, Algorand และ Uniswap ก็มีจำนวนจำกัดเช่นกัน
ประโยชน์ของเหรียญ
ดังที่กล่าวไปข้างต้น คุณจะได้ประโยชน์หากมูลค่าของเหรียญ Staking เพิ่มขึ้น ซึ่งแปลว่าคุณสามารถทำการศึกษาว่าเหรียญคริปโตใดที่มีโอกาสในการเติบโตในอนาคต
หากเหรียญคริปโตดังกล่าวมีประโยชน์การใช้งานในโลกจริงก็อาจจะทำให้เหรียญมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าได้
ด้วยเหตุนี้ เหรียญคริปโตนั้นๆ ก็จะมีอุปสงค์และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นนั่นเอง
ด้วยวิธีนี้ แม้ผลตอบแทนต่อปีจะต่ำ แต่คุณก็ยังสามารถทำกำไรได้จากการขายเหรียญนั่นเอง
วิธีการ Stake เหรียญบน AQRU
แม้จะมีหลายแพลตฟอร์มที่รองรับเหรียญ Staking ที่ดีที่สุด แต่กระบวนการซื้อเหรียญนั้นๆ ก็อาจจะยุ่งยากไปบ้าง โดยเฉพาะกับนักลงทุนมือใหม่
เพื่อคลายข้อกังวล เราจะมาแนะนำวิธีการซื้อเหรียญ Staking ผ่านแพลตฟอร์มใช้ง่ายอย่าง AQRU
ขั้นตอนที่ 1: สร้างบัญชี
เพื่อเริ่มรับดอกเบี้ยจากเหรียญ Staking ที่ดีที่สุดที่ AQRU คุณจะต้องสร้างบัญชีก่อน โดยไปที่เว็บไซต์ AQRU และกดปุ่ม “Sign Up”
ตามภาพด้านบน คุณจะต้องกรอกอีเมลและตั้งรหัสผ่าน
จากนั้นคุณสามารถกดปุ่ม “Create Account” เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป
ขั้นตอนที่ 2: ยืนยันตัวตน
AQRU ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยอย่างมาก ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องยืนยันตัวตนก่อนจะเข้าถึงเหรียญ Staking ที่ดีที่สุด
แม้กระบวนการอาจดูยุ่งยาก แต่คุณเพียงต้องใช้สิ่งต่อไปนี้:
- บัตรประจำตัวที่ทางราชการออกให้
- บิลค่าสาธารณูปโภคหรือใบแจ้งยอดธนาคาร
AQRU มีขั้นตอนแบบอัตโนมัติ ซึ่งคุณจะได้รับการยืนยันภายในไม่กี่นาที
ขั้นตอนที่ 3: ฝากเงิน
คุณจะต้องฝากเงินในบัญชี AQRU ซึ่งสามารถฝากได้ทั้งสกุลเงินทั่วไป เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ปอนด์อังกฤษ หรือยูโร ด้วยการโอนเงินผ่านธนาคารหรือการใช้บัตรเครดิต/เดบิต
ซึ่งจะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมการฝากใดๆ
นอกจากนี้ หากคุณมีเหรียญที่รองรับอยู่แล้ว คุณก็สามารถโอนเหรียญคริปโตได้ทันที โดยตอนนี้ AQRU รองรับการฝาก Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Tether (USDT), USD Coin (USDC) และ Dai (DAI)
ขั้นตอนที่ 4: เข้าถึงเหรียญ Staking
เมื่อคุณเพิ่มเงินเข้าบัญชีแล้ว คุณก็สามารถซื้อเหรียญ Staking ที่ดีที่สุดที่คุณสนใจได้ โดย AQRU จะแสดงตัวเลือกการลงทุนต่างๆ และเปอร์เซ็นต์ของผลตอบแทนที่จะได้รับอีกด้วย
สมมุติว่าคุณต้องการซื้อ Ethereum และรับผลตอบแทนจากเหรียญ ETH ของคุณ
คุณเพียงแค่เลือกเหรียญ Ethereum และเลือกจำนวนที่ต้องการลงทุน หลังจากยืนยันการซื้อแล้ว ที่หน้าหลักของ AQRU จะแสดงดอกเบี้ยที่คุณได้รับแบบเรียลไทม์
AQRU ให้คุณสามารถสะสมรายได้แบบพาสซีฟได้จากเหรียญ Staking ที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องลงแรงอะไรมากมาย
บทสรุป
การ Staking เหรียญคริปโตนั้นทำให้คุณสร้างรายได้แบบพาสซีฟได้โดยไม่ต้องขายเหรียญ
คู่มือนี้ได้อธิบายถึงบรรดาเหรียญ Staking ที่ดีที่สุดในปี 2023 และกระดานเทรดที่คุณควรพิจารณา
หนึ่งในเหรียญที่ดีที่สุดที่อยากแนะนำคือเหรียญ Wall Street Memes ด้วยอัตราผลตอบแทนต่อปี (APY) โดยประมาณที่ 119% จึงเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการขยายการถือโทเค็นของตน ณ ตอนนี้ อัตรารางวัลปัจจุบันอยู่ที่ 75 WSM ต่อบล็อก โดยมี WSM ทั้งหมด 168,484,313 ที่ถูก Stake แล้วบนเครือข่าย