ในวงการคริปโต เขาว่ากันว่า “ถ้าคุณไม่ใช่เจ้าของรหัส คุณก็ไม่ใช่เจ้าของเหรียญจริงๆ” หรือ แม้ว่านักลงทุนจะมีรหัสส่วนตัวใน Crypto Wallet แต่ก็ไม่สามารถควบคุมเหรียญคริปโตได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
นี่คือจุดที่ Hardware Wallet มีประโยชน์ โดยจะอธิบายว่า Hardware Wallet คืออะไรและทำงานอย่างไร พร้อมรีวิวว่า Hardware Wallet อันไหนดีที่สุดในตลาดตอนนี้
Hardware Wallet อันไหนดีที่สุด 10 อันดับแรก
ด้วยตัวเลือกที่มีมากมาย การเลือก Hardware Wallet เพื่อเก็บเหรียญคริปโตจึงอาจเป็นเรื่องยาก
โดยด้านล่างนี้คือผู้ให้บริการ Hardware Wallet ชั้นนำที่มีความปลอดภัยสูง:
- Ledger Nano X – Crypto Hardware Wallet โดยรวมที่ดีที่สุดในปี 2024
- Trezor – Hardware Wallet เก็บเหรียญคริปโตชั้นนำ
- Keepkey – Crypto Hardware Wallet ราคาถูก
- BitBox02 – Bitcoin Hardware Wallet ที่ดีที่สุด
- SecuX – Crypto Wallet พร้อมการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร
- Ellipal Titan – Crypto Hardware Wallet แบบ Air-Gapped
- SafePal S1 – Crypto Hardware Wallet ที่สนับสนุนโดย Binance
- Keystone Pro – Hardware Wallet พร้อมเครื่องสแกนลายนิ้วมือ
- CoolWallet Pro – Crypto Hardware Wallet ที่ใช้งานง่าย
- NGRAVE Zero – Crypto Wallet ที่มีความปลอดภัยสูง
- D’CENT – Biometric Hardware Wallet
หากต้องการอ่านรีวิว Hardware Wallet ด้านบนแบบเจาะลึกเพิ่มเติม โปรดอ่านต่อ
รีวิว Hardware Wallet เก็บเหรียญคริปโตที่ดีที่สุด
การเลือก Wallet ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายเป็นขั้นตอนสำคัญอันดับแรกที่ต้องพิจารณาเมื่อลงทุนในเหรียญคริปโต
วิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลคือการใช้ Hardware Wallet ซึ่งจะทำให้รหัสส่วนตัวออฟไลน์และทำให้แฮ็กเกอร์ เข้าถึงยาก
ในส่วนนี้ เราจะเจาะลึกว่า Hardware Wallet ตัวไหนดี โดยคำนึงถึงคุณสมบัติหลักและความปลอดภัย
1. Ledger Nano X – Crypto Hardware Wallet โดยรวมที่ดีที่สุดในปี 2024
ตัวเลือกอันดับหนึ่งของเราคือ Ledger Nano X ที่สร้างรหัสส่วนตัวผ่านตัวอุปกรณ์เองและรักษาความปลอดภัยด้วย PIN และยังใช้งานง่ายและรองรับเหรียญคริปโตมากกว่า 5,500 สกุล
ซึ่งถือว่ารองรับสกุลเหรียญคริปโตมากที่สุดในตลาด โดยตัวอุปกรณ์มาพร้อมกับสาย USB-C และสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือได้ นอกจากนี้ยังเปิดใช้งานบลูทูธเพื่อให้ส่งหรือรับเงินได้อย่างง่ายดาย
แต่ละคนยังสามารถเข้าถึง Ledger Live ซึ่งถือเป็น Hardware Wallet ใช้กับมือถือและคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลที่จัดเก็บไว้ได้ โดยมาพร้อมกับคุณสมบัติในตัวหลายอย่าง ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตได้
Ledger Live ยังให้ผู้ใช้ได้ Stake เหรียญคริปโตอย่างปลอดภัย รวมถึง Ethereum, Solana, Cosmos และอีกมากมาย เพื่อทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลบน Ledger Hardware Wallet งอกเงย โดย Ledger Nano X ยังสามารถจัดเก็บเหรียญได้กว่า 100 สกุลและรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม Web 3.0 ยอดนิยมอีกมากมาย
Ledger Nano X ยังจัดเก็บ NFT ได้อีกด้วย แต่ก็มาพร้อมกับราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 149 ดอลลาร์ โดย Ledger ยังมี Wallet รุ่นอื่นๆ อีกหลายรุ่น ได้แก่ Nano S และ Nano S Plus ซึ่งแม้ว่าจะมีราคาถูกกว่า แต่ก็มีคุณสมบัติและประโยชน์น้อยกว่า
ราคาของ Hardware Wallet | $149 |
คุณสมบัติ 3 อันดับแรก | การเชื่อมต่อบลูทูธ, รองรับ 5,500+ สกุล, มีชื่อเสียงในด้านความปลอดภัย |
กระดานแลกเปลี่ยนในตัว | มี |
คะแนนของเรา | 5/5 |
2. Trezor – Hardware Wallet เก็บเหรียญคริปโตชั้นนำ
Trezor เป็นอีกหนึ่ง Hardware Wallet ยอดนิยมที่เหมาะกับบิทคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ โดยมี Hardware Wallet หลายรุ่น ได้แก่ Trezor One แบบดั้งเดิมและ Model T
ข้อแตกต่างหลักระหว่างทั้งสองคือใน Trezor Model T จะมีการป้อน PIN และรหัสผ่านผ่านตัวอุปกรณ์เอง แต่สำหรับ Trezor One ผู้ใช้ต้องใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือเพื่อป้อนข้อมูล ซึ่งหมายความว่า Trezor Model T เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย แต่ก็มีราคาแพงเช่นกันที่ 280 ดอลลาร์ต่อเครื่อง
โดย Trezor One มีราคาถูกกว่าที่ 77 ดอลลาร์ โดยมีซอฟต์แวร์เรือธงอย่าง Trezor Suite ซึ่งสามารถใช้ซื้อ แลกเปลี่ยน และใช้เหรียญคริปโตได้ ซึ่งผู้ใช้สามารถจัดเก็บและจัดการมากกว่า 1,000 เหรียญคริปโตผ่าน Trezor wallet
มาพร้อมกับจอแสดงผลขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับ Ledger ทำให้อ่านง่าย แต่ไม่รองรับบลูทูธ ซึ่งทำให้ใช้ยากไปบ้าง แต่ Trezor ก็มาพร้อมกับการ์ด microSD ที่สามารถใช้เป็นข้อมูลสำรองเพื่อจัดเก็บรหัสผ่านได้
เป็นที่น่าสังเกตว่าทั้ง Ledger และ Trezor ใช้งานได้กับ Exodus ซึ่งเป็น Non-custodial Software Wallet หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านรีวิว Exodus Wallet ฉบับเต็มของเราที่นี่
ราคาของ Hardware Wallet | สูงถึง $280 |
คุณสมบัติ 3 อันดับแรก | จอแสดงผลขนาดใหญ่, รองรับ 1,000+ โทเค็น, มีความปลอดภัยสูง |
กระดานแลกเปลี่ยนในตัว | มี |
คะแนนของเรา | 4/5 |
3. KeepKey – Crypto Hardware Wallet ราคาถูก
Ledger และ Trezor เป็นผู้นำตลาดด้าน Hardware Wallet อย่างไม่ต้องสงสัย แต่อาจถือว่าค่อนข้างแพง ดังนั้น ใครที่มองหาทางเลือกที่เหมาะสม ผู้ใช้ก็สามารถพิจารณา KeepKey ซึ่งอาจจะเป็น Bitcoin Hardware Wallet ที่ดีที่สุดที่มีราคาไม่ถึง $50
KeepKey เปิดตัวในปี 2015 เป็น Wallet แบบสแตนด์อโลน โดยในปี 2560 บริษัทถูกซื้อโดย ShapeShift ซึ่งเป็นหนึ่งในกระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุดเพื่อรวมเข้ากับ Non-custodial Wallet โดย KeepKey มีความคล้ายกับอุปกรณ์ USB และมีหน้าจอ OLED ขนาดเล็กที่สามารถควบคุมได้ด้วยปุ่มต่างๆ
แม้ว่า KeepKey Wallet นั้นดูเทอะทะเมื่อเทียบกับ Ledger Nano X หรือ Trezor หากต้องการใช้ KeepKey Wallet และจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล นักลงทุนก็จำเป็นต้องใช้งาน ShapeShift โดยข้อเสียหลักคือรองรับเหรียญคริปโตเพียง 40 สกุล ซึ่งน้อยกว่าผู้ให้บริการรายอื่นในตลาดอย่างมาก
ราคาของ Hardware Wallet | $49 |
คุณสมบัติ 3 อันดับแรก | Crypto Hardware Wallet ราคาถูก, หน้าจอขนาดใหญ่ที่ใช้งานง่าย, ทำงานร่วมกับ Shapeshift |
กระดานแลกเปลี่ยนในตัว | ผ่านกระดานเทรด Shapeshift |
คะแนนของเรา | 3.5/5 |
4. BitBox02 – Bitcoin Hardware Wallet ที่ดีที่สุด
BitBox02 มีการออกแบบที่เรียบง่ายและครอบคลุม โดยมีสองรูปแบบ – แบบหนึ่งสำหรับเก็บ Bitcoin โดยเฉพาะ และอีกแบบหนึ่งที่รองรับ Altcoin ต่างๆ ที่เก็บได้มากกว่า 1,500 เหรียญคริปโต
Hardware Wallet จากสวิสนี้มาพร้อมกับแอพที่ให้ผู้ใช้สามารถซื้อเหรียญคริปโตได้ และอุปกรณ์ยังเชื่อมต่อกับ Crypto Wallet อื่นๆ เช่น MyEtherWallet, Electrum และอีกมากมาย ส่วนการสำรองข้อมูลเพิ่มเติม BitBox02 ยังมีสล็อตเพื่อรองรับการ์ด microSD อีกด้วย
BitBox02 มีฟีเจอร์หลายบัญชี ซึ่งให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบธุรกรรมคริปโตได้ง่ายๆ ทั้งยังสามารถใช้เชื่อมต่อกับ dApps บนระบบนิเวศ Ethereum เช่น ตลาด NFT, กระดานแลกเปลี่ยน, และแพลตฟอร์ม DeFi อื่นๆ โดยมีราคาประมาณ 135 ดอลลาร์
ราคาของ Hardware Wallet | ประมาณ 135 ดอลลาร์ |
คุณสมบัติ 3 อันดับแรก | ดีไซน์โฉบเฉี่ยว, รองรับโทเค็นมากกว่า 1,500 สกุล, เชื่อมต่อกับ Software Wallet มากมาย |
กระดานแลกเปลี่ยนในตัว | มี |
คะแนนของเรา | 4/5 |
5. SecuX V20 – Crypto Wallet พร้อมการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร
SecuX เป็นหนึ่งใน Crypto Wallet ที่ดีที่สุดในปี 2024 มี 3 รุ่น ได้แก่ W10, W20 และ V20 โดยรุ่น W10 ใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์เท่านั้น ส่วน W20 และ V20 จะสามารถเชื่อมต่อกับทั้งคอมพิวเตอร์และมือถือได้
โดยเราจะเน้นไปที่ V20 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดจาก SecuX ที่มาพร้อมกับดีไซน์วงกลมที่ไม่เหมือนใครและหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 2.8 นิ้ว โดยทำจากชิป infineon Secure Element เกรดที่ใช้ในทางการทหาร
ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อกับบลูทูธและ USB Type-C โดยสามารถจัดการบัญชีได้มากถึง 500 บัญชีและรองรับเหรียญคริปโตมากกว่า 1,000 สกุล หากอยากซื้อเหรียญคริปโต ผู้ใช้ SecuX จะต้องเชื่อมต่อ Wallet กับ Coinfy ซึ่งค่าธรรมเนียมโอนเหรียญเข้า Hardware Wallet จึงอยู่นอกเหนือการควบคุมของ SecuX
ราคาของ Hardware Wallet | $139 |
คุณสมบัติ 3 อันดับแรก | การเชื่อมต่อบลูทูธ, รองรับ microSD ,หน้าจอสัมผัสขนาด 2.8 นิ้ว |
กระดานแลกเปลี่ยนในตัว | ไม่มี |
คะแนนของเรา | 3/5 |
6. Ellipal Titan – Crypto Hardware Wallet แบบ Air-Gapped
Ellipal Titan เป็น Hardware Wallet แบบAir-Gapped สำหรับเก็บเหรียญคริปโต ซึ่งจะเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ไม่ได้ แต่ Wallet ทำงานร่วมกับแอพ Ellipal ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะแทน ซึ่งจะส่งข้อมูลธุรกรรมไปยังอุปกรณ์ผ่าน QR Code
จากนั้นผู้ใช้สามารถยืนยันการทำธุรกรรมผ่าน Wallet โดยป้อน PIN ซึ่งจะสร้างอีก QR Code บนอุปกรณ์ซึ่งจะต้องสแกนผ่านแอพเพื่อยืนยัน แม้ว่าจะฟังดูยุ่งยากสำหรับมือใหม่ แต่ Wallet แบบ Air-Gapped ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดในการเก็บรหัสส่วนตัวแบบออฟไลน์
Ellipal Titan Wallet ยังมาพร้อมกับโหมดทำลายอัตโนมัติที่จะคืนค่าการตั้งค่าจากโรงงานเมื่อถูกดัดแปลง พร้อมรองรับโทเค็นมากกว่า 10,000 สกุลและเครือข่าย Blockchain กว่า 45 เครือข่าย พร้อมแอพ Ellipal ที่ใช้ซื้อหรือ Stake เหรียญคริปโตได้อีกด้วย
ราคาของ Hardware Wallet | $119 |
คุณสมบัติ 3 อันดับแรก | อุปกรณ์ Air-gapped, รองรับ 10,000+ โทเค็น, หน้าจอขนาดใหญ่ |
กระดานแลกเปลี่ยนในตัว | มี |
คะแนนของเรา | 4/5 |
7. SafePal S1 – Crypto Hardware Wallet ที่สนับสนุนโดย Binance
SafePal S1 เป็นอีกหนึ่ง Hardware Wallet แบบ Air-gapped พร้อมกลไกการทำลายตัวเอง โดยทำงานร่วมกับแอพ SafePal ซึ่งให้ผู้ใช้ซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโต โดยสามารถซื้อบิทคอยน์ด้วยบัตรเครดิตหรือด้วยช่องทางการชำระเงินยอดนิยมอื่นๆ ได้
ซึ่งรวมถึงการโอนเงินผ่านธนาคาร, Bancontact, Sofortbanking และ Giropay นี่ยังเป็น Hardware Wallet แรกที่ Binance ลงทุน ด้วยการร่วมมือนี้ ผู้ใช้ SafePal จะสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการการซื้อขาย Binance ภายใน Wallet App ได้
SafePal S1 ยังทำงานร่วมกับ dApps ยอดนิยมบน Ethereum, Tron และ Binance Smart Chain โดย SafePal อาจดูเหมือนบัตรเครดิตที่หนากว่าเล็กน้อยในแวบแรก โดยมีหน้าจอขนาด 1.3 นิ้ว พร้อมกล้องสำหรับสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบการทำธุรกรรมคริปโต ทั้งยังรองรับ 33 Blockchain และโทเค็นมากกว่า 30,000 สกุล
ราคาของ Hardware Wallet | $49.99 |
คุณสมบัติ 3 อันดับแรก | Hardware WalletAir-gapped, รองรับโทเค็น 30,000+ สกุล, รวมกับ Binance |
กระดานแลกเปลี่ยนในตัว | ผ่าน Binance |
คะแนนของเรา | 4/5 |
8. Keystone Pro – Hardware Wallet พร้อมเครื่องสแกนลายนิ้วมือ
Keystone Pro ใช้เทคโนโลยี Air-gapped ซึ่งทำให้เป็นหนึ่งใน Crypto Hardware Wallet ที่ดีที่สุดในด้านความปลอดภัย โดยจะส่ง QR Code เพื่อตรวจสอบธุรกรรม พร้อมความปลอดภัยระดับธนาคารเพื่อให้มั่นใจได้ว่ารหัสส่วนตัวจะไม่หายไปจากอุปกรณ์
Keystone Pro ยังมีเซนเซอร์ลายนิ้วมือที่ให้ผู้ใช้ปลดล็อกอุปกรณ์และลงชื่อในการทำธุรกรรม โดยจะมีกลไกทำลายตัวเองที่จะล้างรหัสส่วนตัวเมื่อตรวจพบการปลอมแปลง
Keystone Pro ต้องเชื่อมต่อกับแอพเพื่อเชื่อมต่อกับ Blockchain พร้อมรองรับเหรียญคริปโตกว่า 800 สกุล แต่ ณ ตอนนี้ คุณไม่สามารถซื้อหรือแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตผ่านแอพ KeyStone Hardware Wallet ได้
ราคาของ Hardware Wallet | $169 |
คุณสมบัติ 3 อันดับแรก | Hardware Wallet Air-gapped, รองรับโทเค็น 800+ สกุล, เครื่องสแกนลายนิ้วมือที่มีประโยชน์ |
กระดานแลกเปลี่ยนในตัว | ไม่มี |
คะแนนของเรา | 4.5/5 |
9. CoolWallet Pro – Crypto Hardware Wallet ที่ใช้งานง่าย
CoolWallet Pro เป็นหนึ่งใน Crypto Hardware Wallet ที่ทันสมัยที่สุดในตลาด โดยมีความหนาเพียง 0.8 มม. น้ำหนักเบา และยังรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธอีกด้วย พกพาสะดวกแม้ในขณะเดินทาง
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า CoolWallet Pro จะมีความปลอดภัยต่ำหรือคุณสมบัติหลักน้อยแต่อย่างใด เพราะถือเป็นหนึ่งใน Hardware Wallet เพียงไม่กี่ตัวที่รองรับบริการซื้อขาย NFT ในตัว นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับ Binance DEX และ WalletConnect เพื่อให้ซื้อและแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลได้
อุปกรณ์ยังรองรับการ Stake สำหรับใครที่อยากสร้างผลตอบแทนจากการถือเหรียญคริปโต ทั้งทำงานควบคู่กับแอพ CoolBitX ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ร่วม พร้อมความสามารถในการจัดเก็บเหรียญคริปโตกว่า 150 สกุล
ราคาของ Hardware Wallet | $149 |
คุณสมบัติ 3 อันดับแรก | ขนาดเท่าบัตรเครดิตทั่วไป, มาพร้อมกับแอพที่ใช้งานง่าย, ทำงานร่วมกับ Binance DEX |
กระดานแลกเปลี่ยนในตัว | มี |
คะแนนของเรา | 4.5/5 |
10. NGRAVE Zero – Crypto Wallet ที่มีความปลอดภัยสูง
NGRAVE โฆษณาว่าเป็น Crypto Hardware Wallet แรกของโลกที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย EAL7 และเป็นแบบ Air-gapped โดยสมบูรณ์ ซึ่งจะไม่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายใดๆ เช่น ไวไฟ, บลูทูธ, NFC หรือ 4G ได้
การยืนยันทั้งหมดบน NGRAVE Zero จะต้องผ่าน QR Code โดยรองรับเหรียญคริปโตมากกว่า 1,000 สกุล ซึ่งรวมถึงโทเค็น ERC-20 จำนวนมาก
NGRAVE Zero ยังสามารถเก็บ NFT ที่สร้างขึ้นบนเครือข่าย Ethereum โดยในการเข้าถึงเหรียญคริปโตที่จัดเก็บไว้ใน Zero ผู้ใช้จะต้องดาวน์โหลดแอพ NGRAVE Liquid ก่อน
สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าแอพดังกล่าวจะไม่ให้ผู้ใช้ซื้อหรือแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตได้ และมีราคาที่สูง ในขณะที่เขียน NGRAVE Zero มีราคาประมาณ 405 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน Hardware Wallet ที่แพงที่สุดในตลาด
ราคาของ Hardware Wallet | $405 |
คุณสมบัติ 3 อันดับแรก | Hardware Wallet Air-gapped, การรับรองความปลอดภัย EAL7, รองรับ 1,000 โทเค็น |
กระดานแลกเปลี่ยนในตัว | ไม่มี |
คะแนนของเรา | 3/5 |
11. D’CENT – Biometric Hardware Wallet
D’Cent เป็น Hardware Wallet ที่มีการตรวจสอบแบบ Biometric พร้อมหน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน โดยสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือมือถือโดยใช้บลูทูธหรือสาย USB ได้
เหรียญคริปโตบน Wallet จะสามารถจัดการได้ผ่านแอพมือถือ D’CENT พร้อมรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม DeFi และตลาด NFT โดยขณะที่เขียนอยู่ D’CENT Wallet สามารถใช้เก็บเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ได้มากกว่า 2,700 สกุล
D’CENT ยังมีกระเป๋าใส่บัตรซึ่งออกแบบให้บางลง โดยผู้ใช้สามารถแตะบัตรบนมือถือที่รองรับเทคโนโลยี NFC เพื่อตรวจสอบธุรกรรมได้ แต่นักลงทุนจะต้องซื้อการ์ดแยกต่างหากสำหรับโทเค็นบนเครือข่าย Ethereum และ Klatyn
ราคาของ Hardware Wallet | $139 |
คุณสมบัติ 3 อันดับแรก | การเชื่อมต่อบลูทูธ, รองรับโทเค็น 2,700+ , การตรวจสอบแบบ Biometric |
กระดานแลกเปลี่ยนในตัว | ไม่มี |
คะแนนของเรา | 3/5 |
เปรียบเทียบ Hardware Wallet ที่ดีที่สุด
การเลือก Crypto Wallet ที่เหมาะที่สุดอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แม้แต่นักลงทุนที่มีประสบการณ์ก็ตาม
โดยเราได้ใช้ตารางด้านล่าง – ซึ่งสรุปประเด็นสำคัญทั้งหมดเกี่ยวกับ Crypto Hardware Wallet ที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ
จำนวนโทเค็น | ราคาเครื่อง | ค่าธรรมเนียมในการซื้อเหรียญคริปโต | คุณสมบัติ 3 อันดับแรก | |
Ledger Nano X | 5,500+ | $149 | 4.5% สำหรับบัตรเดบิต/เครดิต 1.7% สำหรับการโอนเงินผ่านธนาคาร | การเชื่อมต่อบลูทูธ, รองรับโทเค็นมากกว่า 5,500 สกุล, มาพร้อมกับ Ledger Live |
Trezor | 1,000+ | $77 สำหรับ Trezor One, $280 สำหรับ Trezor Model T | อิงตามกระดานเทรด | จอแสดงผลขนาดใหญ่, รองรับ 1,000+ โทเค็น, มีความปลอดภัยสูง |
KeepKey | 40+ | $49 | อิงตามกระดานเทรด ShapeShift | Crypto Hardware Wallet ราคาถูก, หน้าจอขนาดใหญ่ที่ใช้งานง่าย, ทำงานร่วมกับ Shapeshift |
BitBox02 | 1,500+ | $135 | 4.9% สำหรับบัตรเดบิต/เครดิต 1.9% สำหรับการโอนเงินผ่านธนาคาร | ดีไซน์โฉบเฉี่ยว, รองรับ 1,500+ โทเค็น, มาพร้อมกับ BitBoxApp |
SecuX V20 | 1,000+ | $139 | 5% สำหรับบัตรเดบิต/เครดิต 1% สำหรับการโอนเงินผ่านธนาคารผ่าน Coinfy | รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ, รองรับ microSD, หน้าจอสัมผัสขนาด 2.8 นิ้ว |
Ellipal Titan | 10,000+ | $139 | อิงตามกระดานเทรด | อุปกรณ์ Air-gapped, 10,000+ โทเค็น, หน้าจอใหญ่ |
SafePal S1 | 30,000+ | $49.99 | ค่าบริการ 0.3% สำหรับคำสั่ง Swap, ค่าธรรมเนียมในการซื้อเหรียญคริปโต | Hardware WalletAir-gapped, รองรับโทเค็น 30,000+ สกุล, รวมกับ Binance |
Keystone Pro | 800+ | $169 | ไม่มี | Hardware Wallet Air-gapped, รองรับโทเค็น 800+ สกุล, เครื่องสแกนลายนิ้วมือที่มีประโยชน์ |
CoolWallet Pro | 150+ | $149 | สูงถึง 5% ผ่านแพลตฟอร์มเทรด | ขนาดเท่าบัตรเครดิตทั่วไป, มาพร้อมกับแอพที่ใช้งานง่าย, ทำงานร่วมกับ Binance DEX |
NGRAVE Zero | 1,000+ | $405 | ไม่มี | Hardware Wallet Air-gapped, การรับรองความปลอดภัย EAL7, มีเครื่องสแกนลายนิ้วมือ |
D’CENT | 2,700+ | $139 | ค่าธรรมเนียมเปลี่ยนแปลงตามกระดานเทรด | การเชื่อมต่อบลูทูธ, รองรับโทเค็น 2,700+ , การตรวจสอบแบบ Biometric |
Hardware Wallet คืออะไร?
Hardware Wallet เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับเก็บรหัสส่วนตัวและการทำธุรกรรม เพียงเสียบอุปกรณ์นี้เข้ากับคอมพิวเตอร์หรือมือถือ ผู้ใช้ก็สามารถจัดการและใช้เหรียญคริปโตได้
ธุรกรรมและการตรวจสอบเหรียญคริปโตทุกด้านจะได้รับการจัดการผ่านอุปกรณ์ เนื่องจากรหัสส่วนตัวจะไม่ถูกเปิดเผย เพื่อการโกงและแฮ็กเกอร์ได้อย่างแข็งแกร่ง
โดยผู้ใช้จะได้เก็บคีย์ส่วนตัวของเหรียญคริปโต ซึ่งจะสามารถควบคุมโทเค็นได้อย่างเต็มที่
ส่วน Hardware Wallet อันไหนดีที่ดีที่สุดในปัจจุบันยังมาพร้อมกับคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น การรองรับการเทรดเหรียญคริปโต ผู้ให้บริการอย่าง Ledger ยังเป็นแพลตฟอร์ม Staking จากภายใน Wallet App อีกด้วย
Crypto Hardware Wallet ทำงานอย่างไร?
ใครสงสัยว่า Hardware Walletใช้ยังไง? เราก็ขออธิบายว่าเหรียญคริปโตไม่ได้ถูกจัดเก็บไว้ Hardware Wallet แต่จะถูกเก็บไว้ผ่านที่อยู่เฉพาะบน Blockchain
ให้เราอธิบายกระบวนการจัดเก็บเหรียญคริปโต ดังนี้
- เมื่อสร้าง Crypto Wallet จะมีการสร้างรหัสสองประเภท
- รหัสสาธารณะใช้เพื่อสร้างที่อยู่กระเป๋าเงิน – และนักลงทุนสามารถแบ่งปันกับผู้อื่นเพื่อรับเหรียญคริปโต
- และรหัสส่วนตัวที่เป็นลายเซ็นดิจิทัลจะใช้เพื่อยืนยันการทำธุรกรรม
- ใครก็ตามที่มีรหัสส่วนตัวของ Wallet จะสามารถอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของโทเค็นได้
ซึ่งควรเก็บรหัสส่วนตัวไว้อย่างปลอดภัย เมื่อใช้ Hardware Wallet รหัสส่วนตัวจะถูกสร้างขึ้นภายในอุปกรณ์และจัดเก็บแบบออฟไลน์
การทำธุรกรรมคริปโตจะต้องได้รับการยืนยันผ่านอุปกรณ์จริง ซึ่งจะเพิ่มการป้องกันโดยรวม
Hardware Wallet ยังสร้างรหัสกู้คืนในช่วงการตั้งค่าเริ่มต้น ซึ่งเป็นชุดคำแบบสุ่มที่สามารถใช้เพื่อเข้าถึงเหรียญคริปโตได้ในกรณีที่รหัสส่วนตัวสูญหาย
และยังทำหน้าที่เป็นรหัสสำรองในกรณีที่ Hardware Wallet สูญหายหรือถูกขโมย
ประโยชน์ของ Hardware Crypto Wallet
นี่คือเหตุผลบางข้อที่นักลงทุนควรพิจารณาซื้อ Hardware Wallet
ความปลอดภัยสูง
เมื่อเก็บเหรียญคริปโตไว้ใน Custodial Wallet นักลงทุนจะต้องละทิ้งความเป็นเจ้าของโทเค็นนั้นๆ และต้องไว้วางใจกระดานแลกเปลี่ยนอย่างเต็มที่ในการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลของตนให้ปลอดภัย
แต่ถ้ากระดานแลกเปลี่ยนถูกแฮ็ก นักลงทุนอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมด แต่เมื่อใช้ Hardware Wallet ผู้ใช้จะมั่นใจได้ว่าเหรียญคริปโตของตนปลอดภัยและห่างไกลจากเงื้อมมือของแฮ็กเกอร์
การควบคุมเหรียญคริปโต
เราได้เน้นย้ำว่า Hardware Wallet จะให้ผู้ใช้ได้ควบคุมเหรียญของตนได้อย่างเต็มที่
ให้เราอธิบายเพิ่มเติม ดังนี้
- สมมติว่านักลงทุนกำลังจัดเก็บเหรียญคริปโตในกระดานแลกเปลี่ยน
- หากกระดานแลกเปลี่ยนปิดการถอนเหรียญหรือปิดปรับปรุงเว็บไซต์ นักลงทุนจะทำอะไรไม่ได้ ซึ่งอาจเป็นเรื่องยุ่งยากในกรณีที่ตลาดกำลังผันผวน
- หรือ อาจมีสถานการณ์ที่ผู้ใช้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสทางการตลาดได้
แต่เมื่อใช้ Hardware Wallet นักลงทุนสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ของตนได้ทุกเวลา หากกระดานแลกเปลี่ยนปิดปรับปรุง ผู้ใช้ก็สามารถโอนสินทรัพย์ของตนไปยังอีกกระดานเพื่อเทรดได้
ฟังก์ชันเพิ่มเติม
ขั้นต้น Hardware Wallet ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่าการเก็บเหรียญคริปโต
แต่ในบทความ Hardware Wallet อันไหนดีของเราก็มาพร้อมกับคุณสมบัติมากมาย
นักลงทุนมักจะสามารถซื้อ, ขาย, Stake, และแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลได้จากภายใน Wallet App
Hardware Wallet จำนวนมากยังรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม DeFi และยังสามารถจัดเก็บ NFT ได้อีกด้วย กล่าวคือ ไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างความปลอดภัยและฟังก์ชันการทำงานอีกต่อไป
Hardware Crypto Wallets vs Software Wallets
นักลงทุนมีสองตัวเลือกในการเก็บเหรียญคริปโต
ต่อไปนี้ เราจะพิจารณาความแตกต่างระหว่างทั้งสอง Wallet อย่างละเอียดยิ่งขึ้น
Software Wallet
Software Wallet คือแอพพลิเคชั่นที่สามารถติดตั้งบนคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ และอาจเป็นส่วนขยายของเบราว์เซอร์ได้ด้วย ซึ่งมีมากมายในตลาด
ส่วนใหญ่ดาวน์โหลดฟรีและใช้งานสะดวก ทุกคนสามารถเลือกได้ระหว่าง Custodial Wallet หรือ Non-custodial Software Wallet ขึ้นอยู่กับรูปแบบการลงทุนและข้อกำหนดด้านความปลอดภัย
ปัญหาคือรหัสส่วนตัวยังคงอยู่ในอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต จึงมีความเสี่ยงที่จะอาจถูกแฮ็กจากระยะไกลได้
Hardware Wallet
ผู้ใช้ควรพิจารณาจัดเก็บรหัสส่วนตัวไว้ใน Cold Wallet ทำให้ Hardware Wallet ถือเป็นตัวเลือกการจัดเก็บเหรียญที่ปลอดภัยที่สุด
Hardware Wallet ได้รับการปกป้องด้วยรหัส PINและรหัสกู้คืน หากมีคนครอบครองอุปกรณ์ ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะรู้รหัสโดยไม่ต้องเดารหัส PIN
วิธีเลือกว่า Hardware Wallet อันไหนดีที่สุด
ให้เราอธิบายวิธีการเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ
เมื่อค้นหาว่า Hardware Wallet อันไหนดีที่สุด นักลงทุนก็สามารถพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้ได้
ความปลอดภัย
เหตุผลหลักคือเรื่องความปลอดภัย โดยผู้ให้บริการบางรายก็มีกลไกด้านความปลอดภัยที่ดีกว่ารายอื่นๆ
ยกตัวอย่างเช่น มีผู้ให้บริการที่นำเสนอโซลูชันแบบ Air-gapped ซึ่งเป็นการป้องกันในระดับที่ไม่มีใครเทียบได้
แต่ Air-gapped Wallet อาจใช้งานยุ่งยากไปบ้าง โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ เช่น Ledger Nano X Wallet ที่มีความสมดุลระหว่างความสะดวกสบายและฟังก์ชันการทำงานโดยไม่ไม่ได้ลดระดับความปลอดภัยลง
เหรียญที่รองรับ
สำหรับนักลงทุนที่มีพอร์ตการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง จำนวนโทเค็นที่รองรับก็ถือเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญ
ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินเกือบทั้งหมดที่กล่าวถึงในวันนี้สนับสนุนโทเค็นมากกว่า 1,000 สกุล รวมถึงเหรียญคริปโตที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดตอนนี้
ค่าธรรมเนียม
ผู้ใช้ควรคำนึงถึงราคาของ Hardware Wallet ด้วย
โดย Hardware Wallet ที่ดีที่สุดในตลาดมีราคาอย่างต่ำ $100 ส่วนบาง Wallet เช่น NGRAVE Zero ก็มีราคาประมาณ 400 ดอลลาร์เลยทีเดียว
ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับนักลงทุนที่จะตัดสินใจว่าจะจ่ายได้เท่าไหร่และคาดหวังคุณสมบัติอะไรใน Wallet นั้นๆ
โปรดทราบว่านี่เป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียว Hardware Wallet สามารถใช้งานได้หลายปีและราคาของอุปกรณ์นั้นก็คุ้มค่ากับการลงทุนเมื่อพิจารณาถึงความปลอดภัยที่มอบให้
ประสบการณ์ผู้ใช้
Hardware Wallet อาจใช้ยากไปบ้าง
แต่การออกแบบ Hardware Wallet ก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และทุกวันนี้ อุปกรณ์ต่างๆ ก็ใช้งานได้สะดวกขึ้นมาก
หลายๆ Crypto Hardware Wallet มาพร้อมกับหน้าจอสีขนาดใหญ่ และบางรุ่นยังมีการยืนยันตัวตนแบบ Biometric ซึ่งทำให้การยืนยันธุรกรรมง่ายยิ่งขึ้นไปอีก
บทสรุป
ใครมองหาการป้องกันระดับสูงสุดสำหรับเหรียญคริปโตควรพิจารณาว่า Hardware Wallet อันไหนดี โดย Bitcoin Hardware Wallet ที่ดีที่สุดในปัจจุบันไม่เพียงแต่มีความปลอดภัยสูง แต่ยังใช้งานง่ายอีกด้วย
สรุปแล้ว เราพบว่า Ledger Nano X เป็นส่วนผสมที่เหมาะสมที่สุดระหว่างความปลอดภัยและความสามารถในการใช้งาน
รองรับเหรียญดิจิทัลกว่า 5,500 สกุล พร้อมการเชื่อมต่อบลูทูธ และยังเชื่อมต่อกับแอพ Ledger Live ได้อย่างราบรื่น ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อ ขาย และ Stake เหรียญคริปโตได้อย่างง่ายดาย