Crypto ETF คือโอกาสทำกำไรจากเหรียญคริปโตด้วยเครื่องมือการลงทุนแบบดั้งเดิม ซึ่ง ETF ส่วนใหญ่ในตลาดได้รับการสนับสนุนโดยสัญญาซื้อขายฟิวเจอร์ส แต่ว่ากองทุนหลายแห่งที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกาสนับสนุน Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่นๆ
ในบทความนี้เราจะรีวิว 10 ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ ราคาถูก ศักยภาพสูง และปัจจัยอื่นๆ
จัดอันดับ 10 ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด 2023 – ลิสต์อันดับ Crypto ETF
ลิสต์ด้านล่างคือ 10 อันดับ ETF คริปโตเคอเรนซี่ที่ดีที่สุดในตลาดวันนี้
- Wall Street Memes – เหรียญมีมใหม่ที่น่าตื่นเต้นซึ่งมีต้นกำเนิดจากชุมชน Wall Street Bets Reddit และสร้างขึ้นโดยผู้ก่อตั้งโปรเจกต์ Wall St Bulls NFT ปี 2021 แบรนด์ Wall Street Memes ได้รับการยอมรับอย่างดีอยู่แล้วโดยมีผู้ติดตามมากกว่าหนึ่งล้านคนบนโซเชียลมีเดีย ตอนนี้สามารถระดมทุนได้มากกว่า 13.952 ล้านดอลลาร์ในช่วงพรีเซลล์ในเวลาเพียงเดือนเดียว
- ProShares Bitcoin Strategy ETF (BITO) – ETF คริปโตมูลค่าสูงที่สุด
- Bitwise Crypto Industry Innovators ETF (BITQ) – ทำกำไรจากหุ้นคริปโต
- ARK Next Generation Internet ETF (ARKW) – กระจายการลงทุนใน Bitcoin และสินทรัพย์มาใหม่มากมาย
- Fidelity Advantage Bitcoin ETF (FBTC) – ทางเลือกกองทุนรวมที่ลงทุนโดยตรงใน Bitcoin
- Grayscale Bitcoin Trust (BTC) – Bitcoin ETF ที่เน้นนักลงทุนรายใหญ่
- ProShares Short Bitcoin Strategy ETF (BITI) – Bitcoin ETF สำหรับการขายชอร์ตเหรียญคริปโต
- 21Shares Ethereum ETP (AETH) – ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนใน Ethereum
- Siren Nasdaq NexGen Economy ETF (BLCN) – กองทุนระยะยาวเพื่อติดตามดัชนี NASDAQ Blockchain Economy
- Cryptos by Market Cap Smart Portfolio – ลงทุนใน 20 เหรียญคริปโตชั้นนำจากมูลค่าตลาด
อ่านต่อเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุนข้างต้นในลิสต์ Crypto ETF ด้านบน
เจาะลึกกับ ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด
Crypto ETF ช่วยให้นักลงทุนทำกำไรจาก Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ผ่านบัญชีโบรกเกอร์แบบดั้งเดิม ซึ่งหมายความว่านักลงทุนไม่จำเป็นต้องใช้งานกระดานเทรดคริปโต เพื่อเก็งกำไรมูลค่าในอนาคตของเหรียญคริปโต
ด้านล่างนี้เราจะรีวิวและวิเคราะห์ผู้ให้บริการ Crypto ETF ที่ดีที่สุด 10 อันดับแรกในตลาดตอนนี้
1. Wall Street Memes – พรีเซลล์เปิดตัวใหม่ซึ่งมีผู้ติดตามโซเชียลมีเดีย 1 ล้านคนและระดมทุนได้ 13.952 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน
Wall Street Memes เป็นเหรียญคริปโต Pre-sale ใหม่ที่เปิดตัวโดยผู้สร้างคอลเล็กชัน Wall St Bulls NFT ปี 2021 โดยขายหมดภายใน 32 นาที ทำกำไรให้กับผู้สร้างกว่า $2.5 ล้าน และพรีเซลล์โทเค็น $WSM ก็เริ่มระดมทุนได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
ในขณะที่เขียน การพรีเซลล์อยู่ในรอบท้ายๆ จากทั้งหมด 30 รอบแล้ว โดยสามารถระดมทุนได้มากกว่า 15 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 1 เดือนกว่า
ทีมงานยังคงอยู่ในสายตาของสาธารณชนหลังจากการเปิดตัว NFT โดยมีการโพสต์มีมที่เกี่ยวกับเหรียญคริปโตและหุ้นในหลายช่องทางโซเชียลมีเดีย
ปัจจุบัน โปรเจกต์นี้มีผู้ติดตามมากกว่าหนึ่งล้านคน และได้รับการติดตามและการกล่าวถึงอย่างน่าทึ่งจากบุคคลสำคัญอย่าง Elon Musk ผู้ซึ่งก็มีปฏิสัมพันธ์กับเพจดังกล่าวหลายต่อหลายครั้ง
ตาม Wall Street Memes จุดประสงค์ของเว็บไซต์เหรียญคือเพื่อ ‘ทำให้การขับเคลื่อนเป็นโทเค็น’ ซึ่งเหมือนกับการขับเคลื่อนของ Wall Street Bets ซึ่งทำให้นักเทรดหลายล้านรายมารวมตัวกันและบีบให้สถาบันเทขายหุ้น โดยเอาชนะเหล่านักลงทุนสถาบันด้วยชุมชนของตนเอง
โทเค็น Wall Street Memes มีจุดมุ่งหมายเพื่อจะมาทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำเดิมโดยทำให้ชุมชนของตนสามารถ “รวยจากเหรียญมีมที่ไร้ประโยชน์”
จากเหตุการณ์ Wall Street Bets ทีมงานได้จัดสรร 100% ของเหรียญ Presale ให้กับชุมชน โดยไม่มีการเก็บไว้ให้กับตัวเอง โดย50% ของ $WSM จะถูกขายในช่วงพรีเซลล์ โดยส่วนที่เหลือจะแบ่งให้ระหว่างรางวัลชุมชนและสภาพคล่องในกระดานแลกเปลี่ยน
กิจกรรมให้รางวัลชุมชนครั้งแรกได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยทีมเสนอ $50k จาก $WSM สำหรับการแจก Airdrop โดยรางวัลจะแบ่งให้ผู้ชนะ 5 คน ซึ่งจะมีสิทธิ์โดยทำภารกิจง่ายๆ ให้สำเร็จ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Airdrop โดยไปที่ Wall Street Memes Discord
โปรเจกต์ยังเปิดตัว Bitcoin Ordinals NFT จำนวน 420 รายการ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าทีมงานอยู่ในแนวหน้าของนวัตกรรมคริปโต และอาจนำไปสู่กระแส Presale ที่เพิ่มขึ้นของ Wall Street Memes
ด้วยผู้ติดตามโซเชียลมีเดียหนึ่งล้านคนและ NFT เพียง 420 รายการ คอลเล็กชันจะเป็นที่ต้องการสูงและมีจำนวนไม่มาก ผู้ใช้จำนวนมากที่พลาด NFT อาจหันไปลงทุนใน $WSM ได้แทน
ไปยัง Telegram เพื่อรับข่าวสารล่าสุดและประกาศของ Wall Street Memes
เพดานเงินทุน
$30,577,000
โทเค็นทั้งหมด
2 พันล้าน
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์
1 พันล้าน
Blockchain
เครือข่าย Ethereum
ประเภทโทเค็น
ERC-20
ซื้อขั้นต่ำ
100 โทเค็น
วิธีการชำระเงิน
USDT, ETH
2. ProShares Bitcoin Strategy ETF (BITO) – ETF คริปโตมูลค่าสูงที่สุด
ใครที่กำลังมองหา ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดอาจต้องการพิจารณา ProShares Bitcoin Strategy ซึ่งเป็นกองทุนที่สามารถทำกำไรจากการขึ้นและลงของราคา Bitcoin โดยตรง และเป็นกองทุนแรกที่ได้รับการอนุมัติในตลาดสหรัฐฯ
แม้กองทุนจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากเหรียญคริปโต แต่ ProShares จะซื้อและขายฟิวเจอร์ส Bitcoin เพื่ออิงตามประสิทธิภาพของราคาสินทรัพย์ดิจิทัลให้มากที่สุด
กองทุนบรรลุเป้าหมายนี้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในเดือนตุลาคม 2021 ในช่วง 12 เดือน ราคา ProShares Bitcoin Strategy ETF ลดลง 68% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาสปอตของ Bitcoin ที่ลดลง 66% โดยกองทุนจะคิดอัตราส่วนค่าใช้จ่าย 0.95% และ ETF ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ทำให้ซื้อขายได้อย่างง่ายดาย
3. Bitwise Crypto Industry Innovators ETF (BITQ) – ทำกำไรจากหุ้นเหรียญคริปโต
สำหรับใครที่ต้องการทำกำไรจากหุ้นคริปโต เราก็ขอแนะนำ Bitwise Crypto Industry Innovators ETF ซึ่งจะลงทุนในบริษัทมหาชนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตของเหรียญคริปโตหรือเทคโนโลยี Blockchain
กองทุนนี้ถือหุ้น 29 หุ้นและมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพงที่ 0.85% การถือครองที่มูลค่าสูงที่สุดของ Bitwise Crypto Industry Innovators ETF ได้แก่ Microstrategy และ Coinbase ซึ่งคิดเป็น 14.28% และ 12.28% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีการถือครองใน Silvergate Capital, Hut 8 Mining, Marathon Digital, Riot Blockchain และ Galaxy Digital Holdings อีกด้วย
สิ่งสำคัญคือกองทุนข้างต้นยังมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมเหรียญคริปโต ซึ่งกองทุนนี้ไม่ได้ให้ทำกำไรได้โดยตรงต่อราคาเหรียญคริปโตเพียงเท่านั้น แต่มูลค่าของหุ้นแต่ละหุ้นจะสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจ เช่น รายได้ รายได้จากการดำเนินงาน และราคาหุ้นต่อกำไรเช่นกัน
4. ARK Next Generation Internet ETF (ARKW) – กระจายการเข้าถึง Bitcoin และสินทรัพย์มาใหม่มากมาย
อีกหนึ่ง ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดที่ควรพิจารณาคือ ARK Next Generation Internet ซึ่งมุ่งเน้นไปที่สินทรัพย์
การถือครองที่ใหญ่ที่สุดของ ETF นี้คือ Tesla และ Zoom Video Communications ซึ่งมากกว่า 8% ต่อบริษัท โดยถือ Coinbase ที่ 7% และ Block ที่ 6% ในพอร์ตการลงทุน ARK Next Generation Internet ETF ยังถือสถานะ 5.6% ใน Greyscale Bitcoin Trust ส่วนกองทุน ETF อื่นๆ ได้แก่ Roku, Shopify และ Twilio
ด้วยตลาดหุ้นเทคโนโลยีเป็นช่วงขาลงตลอดทั้งปี 2022 ทำให้ Crypto ETF นี้ขาดทุนทั้ง 12 เดือน ณ ขณะเขียนกว่า 66% แต่เมื่อตอนก่อตั้งกองทุนในปี 2014 กองทุน ARK ได้สร้างผลกำไรไปถึง 180%
5. Fidelity Advantage Bitcoin ETF (FBTC) – ทางเลือกกองทุนรวมที่ลงทุนโดยตรงใน Bitcoin
Fidelity Advantage Bitcoin ETF มุ่งเน้นไปที่นักลงทุนสถาบันซึ่งเป็นการลงทุนในโทเค็น BTC โดยตรง โดยกองทุนถือ Bitcoin ไว้ถึง 99.8% ทำให้มูลค่าของเหรียญจึงสัมพันธ์กับราคาสปอตทั่วโลก Fidelity เป็นกองทุนที่ค่อนข้างเล็ก โดยมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการเพียง 23.5 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
นอกจากนี้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายของกองทุนสูงถึง 0.96% ซึ่งเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการลงทุนใน Bitcoin ในระยะยาวโดยไม่ผ่านกระดานเทรด ซึ่งจะแจกจ่ายปันผลเป็นประจำทุกปี และกองทุนจะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ Toronto ทำให้ Fidelity Advantage Bitcoin ETF จะกำหนดราคาโดยอิงตามดอลลาร์แคนาดานั่นเอง
6. Grayscale Bitcoin Trust (BTC) – Bitcoin ETF ที่เน้นนักลงทุนรายใหญ่
Greyscale Bitcoin Trust เปิดตัวในปี 2013 และเป็น ETF คริปโตที่ยืนยาวที่สุดในตลาด ทั้งยังสร้างผลตอบแทนไปมากกว่า 13,000% นับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุน แต่ในระยะเวลา 12 เดือน มูลค่าของกองทุนได้ลดลง 75% ซึ่งเป็นผลมาจากช่วงที่ตลาดคริปโตซบเซา
แม้ว่า Greyscale Bitcoin Trust จะเป็นหนึ่งใน ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด แต่ก็มีสิ่งสำคัญสองข้อที่ต้องพิจารณาก่อน ข้อแรก ETF นี้มีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อปีสูงถึง 2% และข้อสอง การลงทุนขั้นต่ำใน Crypto ETF นี้คือ $50,000
ด้วยเหตุนี้ผู้ที่ต้องการลงทุนอาจพบว่า Greyscale Bitcoin Trust มีราคาที่ไกลเกินเอื้อม โดยอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือ Greyscale Bitcoin Trust ซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะเข้าถึงได้ยากสำหรับนักเทรดทั่วไปนั่นเอง
7. ProShares Short Bitcoin Strategy ETF (BITI) – Bitcoin ETF สำหรับการขายชอร์ตเหรียญคริปโต
ผู้ที่ต้องการขายชอร์ตเหรียญคริปโต ควรพิจารณา Bitcoin Strategy ซึ่งเป็น ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดในจุดประสงค์ดังกล่าว โดยกองทุนนี้จะให้นักลงทุนทำกำไรได้เมื่อราคา Bitcoin ลดลง ผ่านการซื้อขายฟิวเจอร์ส Bitcoin บนตลาด CME
ที่สำคัญ Crypto ETF มาใหม่นี้ทำให้การขายชอร์ต Bitcoin ราบรื่นและคุ้มค่ามากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องจัดการกับตัวเลือกลงทุนทางการเงินทั่วไป ซึ่งจะไม่เหมือนกับกับการขายชอร์ตฟิวเจอร์ส Bitcoin โดยตรง และกองทุนจะไม่ทำให้นักลงทุนเสียเงินมากกว่าเงินที่ลงทุนไปในตอนแรก
อย่างไรก็ตาม ProShares Short Bitcoin Strategy ETF ไม่เหมาะสำหรับกลยุทธ์การขายชอร์ตในระยะยาว แต่ Crypto ETF นี้จะเน้นไปที่เทรดเดอร์ที่ต้องการเข้าและออกจากสถานะในระยะสั้น ดังที่เห็นได้ว่าราคา ETF นี้ลดลง 9% ในช่วง 12 เดือน แม้ว่าตลาดสปอต Bitcoin จะลดลง 66% ในช่วงเวลาเดียวกันก็ตาม
8. 21Shares Ethereum ETP (AETH) – ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนใน Ethereum
ETF ส่วนใหญ่ที่เรารีวิวล้วนมุ่งเน้นไปที่ Bitcoin ETF เพียงอย่างเดียว แต่การลงทุนใน Ethereum ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน โดย 21Shares Ethereum ETP อาจเป็น ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดในจุดประสงค์นี้ ซึ่งถูกลิสต์ในยุโรปและได้รับการสนับสนุนโดยเหรียญ Ethereum
หมายความว่ามูลค่าของกองทุนจะสอดคล้องกับราคาสปอต Ethereum ทั่วโลก โดยทางผู้ให้บริการกองทุนระบุว่า 100% ของบมูลค่าถูกเก็บไว้ในโทเค็น ETH และ Cold Wallet โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายของ 1Shares Ethereum ETP คือ 1.49% ซึ่งก็ถือว่าแพงเช่นกัน
แต่กองทุนมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่ามากกว่า 213 ล้านดอลลาร์ ณ ตอนนี้ แม้มูลค่ากองทุน Ethereum นี้จะลดลง 65% ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2022 แต่ในปี 2020 และปี 2021 กองทุนก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 442% และ 397% ตามลำดับ
9. Siren Nasdaq NexGen Economy ETF (BLCN) – กองทุนระยะยาวเพื่อติดตามดัชนี NASDAQ Blockchain Economy
อีกหนึ่ง ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดของเราคือ Siren Nasdaq NexGen Economy ซึ่งมีจุดประสงค์ในการติดตามประสิทธิภาพของดัชนี NASDAQ Blockchain Economy ซึ่งหมายความว่าพอร์ตการลงทุนจะประกอบไปด้วยหุ้น Crypto ETF ที่หลากหลายซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงหรือโดยอ้อมในการเติบโตของสินทรัพย์ Blockchain และเหรียญคริปโต
ในขณะที่เขียน การถือครองสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดใน ETF นี้ ได้แก่ JPMorgan Chase, GMO Internet Group, SAP, IBM, Oracle, MasterCard และ Paypal เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้ ETF ดัชนีคริปโตนี้จึงน่าจะเหมาะสำหรับนักลงทุนเชิงอนุรักษนิยมที่ไม่ต้องการสร้างผลกำไรหลักจากเหรียญคริปโตนั่นเอง
10. Cryptos by Market Cap Smart Portfolio – ลงทุนใน 20 เหรียญคริปโตจากการประเมินมูลค่าตลาด
ตัวเลือกสุดท้ายที่ควรพิจารณาคือ ‘Cryptos by Market Cap’ Smart Portfolio จาก eToro แม้อาจจะไม่ใช่ ETF แต่ก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก นั่นเป็นเพราะการลงทุนเพียงครั้งเดียว นักลงทุนก็จะสามารถทำกำไรได้จากเหรียญคริปโตได้กว่า 20 สกุลด้วยพอร์ตการลงทุนที่อิงตามมูลค่าตลาด
ซึ่งหมายความว่าพอร์ตการลงทุนจะลงทุนในเหรียญคริปโตโดยอิงตามมูลค่าตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสการเก็งกำไรในตลาด ซึ่ง eToro จะบริหารจัดการปรับสมดุลเหรียญคริปโตด้วย Market Cap Smart Portfolio ในนามของนักลงทุน
นักเทรดทั่วไปจะสนใจอัตราขั้นต่ำในการใช้งาน Smart Portfolio ซึ่งมีราคาเพียงแค่ $500 ยิ่งไปกว่านั้น eToro จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ซึ่งหมายความว่านักลงทุนจะจ่ายค่าคอมมิชชั่นซื้อขายโดยอ้อมๆ เพียง 1% สำหรับธุรกรรมที่ดำเนินการผ่าน Smart Portfolio นั่นเอง
Crypto ETF คืออะไร?
Crypto ETF ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนได้ทำกำไรจากตลาดคริปโตผ่านเครื่องมือการลงทุนแบบดั้งเดิม ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสามารถเก็งกำไรมูลค่าในอนาคตของเหรียญคริปโตได้โดยไม่ต้องซื้อบิทคอยน์และ altcoins ผ่านกระดานแลกเปลี่ยน
ยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุนที่ช่ำชองหลายคนรู้สึกไม่สบายใจนักที่จะใช้กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเพื่อซื้อและขายสินทรัพย์ แต่จะชื่นชอบ Crypto ETF จากผู้ให้บริการที่มีการกำกับดูแลแทน เช่น ProShares, ARK และ Fidelity
- Crypto ETF มีมากมายและแตกต่างกันไป
- ตัวอย่างเช่น Crypto ETF ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่บิทคอยน์โดยเฉพาะ
- ยิ่งไปกว่านั้น ETF บิทคอยน์ที่เข้าถึงได้ในตลาดสหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้รับการสนับสนุน
- แต่ผู้ให้บริการ ETF จะซื้อและขาย Bitcoin Futures ในนามของนักลงทุน
- นี่เป็นปัญหาในการลงทุน เนื่องจากจะมีความแตกต่างเสมอระหว่างมูลค่าของตลาดสปอต Bitcoin และ ETF ที่เกี่ยวข้อง
นอกตลาดสหรัฐฯ ก็มี ETF จำนวนหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนโดยเหรียญคริปโต แม้ส่วนใหญ่จะได้รับการสนับสนุนโดย Bitcoin แต่ก็มี ETF ที่ลงทุนโดยตรงลงใน Ethereum ด้วยเช่นกัน
บางทีประโยชน์หลักของ ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดคือสามารถทำกำไรได้ผ่านบัญชีโบรกเกอร์ทั่วไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว Crypto ETF จะซื้อขายในกระดานแลกเปลี่ยนตราสารทุนสาธารณะ ซึ่งหมายความว่าการเข้าและออกจากตลาดก็ไม่แตกต่างจากการใช้งานแพลตฟอร์มการซื้อขายหุ้นทั่วไปนัก
Crypto ETF ยังมีความปลอดภัยกว่าสำหรับนักลงทุนบางราย เนื่องจากไม่มีข้อกำหนดสำหรับนักลงทุนที่ต้องไว้วางใจกระดานแลกเปลี่ยนที่ไม่มีการควบคุมเพื่อจัดเก็บเหรียญคริปโตของตน การดูแลจะเป็นความรับผิดชอบของผู้ให้บริการ ETF แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะดำเนินงานภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด
Crypto ETF ทำงานอย่างไร?
ควรทำความเข้าใจว่า Crypto ETF ทำงานอย่างไรก่อนที่จะเริ่มลงทุน
โดยเราจะแจกแจงปัจจัยพื้นฐานโดยละเอียด ดังนี้
Crypto ETF ซื้อขายบนกระดานเทรด
Crypto ETF ซื้อขายบนกระดานเทรดหุ้น ซึ่งสามารถลงทุนได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับการซื้อและขายหุ้น
มูลค่าของ Crypto ETF จะเพิ่มขึ้นและลดลงเช่นเดียวกับหุ้นทั่วไป ขึ้นอยู่กับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ของ ETF ณ วันซื้อและขายแต่ละวัน โดยจะอิงกับสินทรัพย์ทั้งหมดที่ถือครองโดย Crypto ETF ตามราคาตลาดปัจจุบัน
Crypto ETF ที่ได้รับการสนับสนุน
ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดคือกองทุนที่ได้รับการสนับสนุนโดยเหรียญคริปโต คล้ายกันกับ ETF ทองคำแบบดั้งเดิมที่ได้รับการสนับสนุนจากแท่งทองคำจริง แต่มูลค่าของ ETF จะสอดคล้องกับอัตราแลกเปลี่ยนทั่วโลกของเหรียญคริปโตนั้นๆ
แม้ตลาดสหรัฐฯ จะไม่มี ETF คริปโตที่ได้รับการสนับสนุนที่ได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต. แต่ ETF คริปโตในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่จะได้รับการสนับสนุนและทำธุรกรรมโดยตัวเลือกการลงทุนทางการเงินอย่าง Bitcoin Futures แต่ก็มี ETF คริปโตจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเหรียญคริปโตนอกจากประเทศสหรัฐฯ
ตัวอย่างคือ 21Shares Ethereum ETP ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยโทเค็น ETH ทำให้ ETF เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการติดตามราคา Ethereum โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอเหรียญคริปโตอื่นๆที่ซับซ้อนและมีราคาแพง
ฟิวเจอร์ Crypto ETF
ETF คริปโตเคอเรนซี่ส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนโดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งจำกัดการกระจายความเสี่ยงอย่างมาก เพราะตลาดฟิวเจอร์สคริปโตที่มีการควบคุมเพียงแห่งเดียวในสหรัฐอเมริกาคือ Bitcoin
นักลงทุนจะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียจริงๆ ในมูลค่าของ Bitcoin เมื่อลงทุนใน ETF ฟิวเจอร์สและตราสารตัวเลือกลงทุนอื่น
โดยเหตุผลคือจะมีความแตกต่างในการกำหนดราคาระหว่างราคาบิทคอยน์กับราคาของ ETF บิทคอยน์นั่นเอง
หุ้น Crypto ETF
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนคือการลงทุนใน ETF ที่ได้รับการสนับสนุนจากหุ้น Crypto ก่อนหน้านี้เราได้กล่าวถึง Bitwise Crypto Industry Innovators ETF ที่ให้เข้าถึงบริษัทคริปโตมากมาย ได้แก่ Coinbase, Marathon Digital และ Riot Blockchain
สำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง Siren Nasdaq NexGen Economy ETF ก็ให้การเข้าถึงหุ้น คริปโตอย่างอิสระ ซึ่งรวมถึง Paypal, IBM, Oracle และ JPMorgan Chase
แต่การเลือก Crypto ETF ชั้นนำที่ได้รับการสนับสนุนโดยหุ้นซึ่งตรงข้ามกับเหรียญคริปโตหรือฟิวเจอร์สนั้นให้ประโยชน์หลักอย่างหนึ่งคือเงินปันผล หากหุ้นปันผลทำการแจกจ่ายเงินปันผล นักลงทุนก็จะได้รับสิทธิ์ในส่วนแบ่งของตนนั่นเอง
Crypto ETF เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?
ความเห็นมักจะแตกต่างกันไปเมื่อพูดถึงวิธีที่ดีที่สุดที่จะลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ แม้นักลงทุนส่วนใหญ่จะใช้กระดานเทรดคริปโตแบบดั้งเดิม แต่คนอื่นๆ ก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นที่จะใช้งานผู้ให้บริการ ETF แทน
ตอนนี้เราจะอธิบายถึงปัจจัยหลักๆ บางประการที่ต้องพิจารณาก่อนทำกำไรจาก Crypto ETF
หลีกเลี่ยงกระดานเทรดคริปโต
หนึ่งในเหตุผลหลักว่าทำไมนักลงทุนบางคนจึงตามหา ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดเพื่อลงทุนในเหรียญคริปโต นั่นก็เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงกระดานเทรดคริปโต
เหรียญคริปโตซื้อขายต่างจากตลาดหุ้น ซึ่งเป็น Centralized Exchange เช่น NYSE และ NASDAQ หมายความว่าระบบการกำหนดราคาที่ให้นักลงทุนจากทั่วโลกสามารถดูประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ของหุ้นที่เลือกจะมีการกำกับดูแลอย่างชัดเจน
แต่ราคาเหรียญคริปโตจะถูกกำหนดจากกระดานแลกเปลี่ยน โดยราคาของ Bitcoin จะมีความแตกต่างอยู่มากในกระดานแลกเปลี่ยนแต่ละประเทศ การลงทุนใน Crypto ETF จึงทำให้นักลงทุนทำกำไรได้จาก Bitcoin โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงลงทุนในกระดานแลกเปลี่ยนที่ไม่มีการกำกับดูแลนั่นเอง
การดูแล
ประโยชน์สูงสุดของ Crypto ETF คือการกำกับดูแล เมื่อนักลงทุนซื้อเหรียญคริปโตออนไลน์ก็จะมีสองตัวเลือกด้วยกัน
- ตัวเลือกแรก พวกเขาสามารถเก็บโทเค็นไว้ใน Crypto Wallet ที่ได้รับการดูแลจากกระดานเทรดคริปโต
- แต่ถ้ากระดานเทรดโดนแฮ็ก นักลงทุนก็จะสูญโทเค็นใน Wallet ไปทั้งหมด
- ทางเลือกที่สองคือถอนโทเค็นไปยัง Private Wallet
- หมายความว่านักลงทุนสามารถควบคุมเหรียญคริปโตของตนได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้ามีการแฮ็กเกิดขึ้น สิ่งนี้ก็อาจส่งผลให้สูญเสียเหรียญไปได้เช่นกัน
การเลือกใช้ Crypto ETF ทำให้นักลงทุนแทบไม่มีความเสี่ยง เนื่องจาก ETF จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการที่ได้รับการควบคุม เช่น Fidelity หรือ ProShares
ผู้ให้บริการ ETF จะมีการประกันและการควบคุมความปลอดภัยระดับสถาบันในนามของนักลงทุน
หมายความว่านักลงทุนสามารถทำกำไรจากเหรียญคริปโตโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับวิธีการทำงานด้านปลอดภัยของ Wallet
สภาพคล่อง
แม้ว่า ETF คริปโตจะถูกสร้างขึ้นเพื่อสร้างสภาพคล่องในตลาด แต่ในทางตรงกันข้าม กลับมีสภาพคล่องมากกว่าอย่างมากในกระดานเทรดคริปโตหลักๆ อย่าง Binance
ตัวอย่างเช่น ในช่วง 24 ชั่วโมงของการซื้อขาย เหรียญคริปโตมูลค่ามากกว่า 18 พันล้านดอลลาร์ได้ถูกแลกเปลี่ยนในกระดานเทรด Binance ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งอย่าง ETF อยู่มาก
ในช่วงขาขึ้นก็มีการทำธุรกรรมใน Binance ในปริมาณกว่า 70 พันล้านดอลลาร์
การขายชอร์ต
อีกหนึ่งข้อดีของ ETF คริปโตเคอเรนซี่คือช่วยให้นักลงทุนขายชอร์ต Bitcoin ได้อย่างง่ายดาย โดยปกติแล้วนักลงทุนจะต้องมีส่วนร่วมกับตัวเลือกลงทุนทางการเงินที่ซับซ้อนเพื่อขาย เช่น crypto futures หรือ option หรือนักลงทุนจะต้องใช้กระดานเทรดคริปโตที่ไม่ได้รับการควบคุมเช่น Bitmex
แต่ ProShares Short Bitcoin Strategy ETF นั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อขายชอร์ตโดยเฉพาะ นักลงทุนเพียงแค่ต้องซื้อ ETF ซึ่งซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเพื่อทำกำไรจากการลดลงของราคา Bitcoin
ProShares Short Bitcoin Strategy ETF เหมาะสำหรับสถานะระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยฟิวเจอร์ส ด้วยเหตุนี้เมื่อพิจารณาจากกราฟราคา ETF จึงทำให้เห็นความแตกต่างกันอย่างมากในความสัมพันธ์ระหว่างราคา ETF กับตลาดสปอต Bitcoin
ทำไมพรีเซลล์เหรียญคริปโตจึงดีกว่า Crypto ETF?
ก่อนหน้านี้เราได้อธิบายว่ามีทางเลือกที่ดีกว่า Crypto ETF ในปัจจุบัน
พรีเซลล์นั้นเหมาะกับนักลงทุนที่ไม่เพียงแต่ต้องการทำกำไรจากเหรียญคริปโตเท่านั้น แต่ยังต้องต้องการอยู่เหนือตลาดอีกด้วย เนื่องจากพรีเซลล์เสนอราคาที่ถูกที่สุดของเหรียญคริปโตก่อนถูกลิสต์ในกระดานแลกเปลี่ยน
ดังนั้น เราจึงขออธิบายข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ 2 พรีเซลล์เหรียญคริปโตที่น่าจับตามองที่สุดในตอนนี้
Thug Life – โทเค็นใหม่ล่าสุดพร้อมเป้าระดมทุนไม่มากจนเกินไปและล็อคสภาพคล่องสามเดือน
Thug Life เป็นเหรียญมีมที่เพิ่งเปิดตัวใหม่พร้อมเป้าระดมทุนขนาดเล็กและยังมีโอกาสสำหรับการเติบโตในอนาคตอีกมากมาย
โปรเจกต์นี้จะมีช่วงพรีเซลล์เพียงช่วงเดียวที่จะเสนอโทเค็นในราคา 0.0007 ดอลลาร์โดยมีเป้าระดมทุนเพียง 2 ล้านดอลลาร์ – Thug Life ดึงดูดใจผู้ที่ขาดทุนจากช่วงกระแสเหรียญมีมและต้องการโอกาสอีกครั้ง
ในขณะที่ Pepe, Wojak, และโปรเจกต์อื่นๆ มีการเติบโตอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โปรเจกต์ใหม่ๆ จำนวนมากก็ได้มีนักลงทุนเริ่มซื้อเหรียญมีมที่อาจจะพูดได้ว่าไม่มีมูลค่าจริงกันบ้างแล้ว
Thug Life ต้องการเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นและด้วยอุปทานสูงสุด 4,200,000,000 โทเค็น 70% (2.94 พันล้าน) จะพร้อมเปิดขายในช่วงพรีเซลล์โดยไม่มีกำหนดการซื้อขั้นต่ำหรือสูง
กลุ่มสภาพคล่องจะถูกล็อคเป็นเวลาสามเดือนแรกหลังจากเปิดตัว ซึ่งหมายความว่าราคาจะไม่ลดลงเท่านั้น แต่จะเป็นการเพิ่มโอกาสการเติบโตได้อีกด้วย
อุปทาน $THUG ที่เหลือจะถูกแบ่งระหว่างการตลาด (15%) และรางวัลชุมชน (15%) – รวมถึง Airdrop ที่จะแจกหลังจากโทเค็นลิสต์ลง DEX
ไม่มีการจัดสรรสำหรับทีมงานซึ่งมีลิงก์ไปยังเหรียญที่มีแนวโน้มก่อนหน้านี้ในตลาด ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสน้อยที่จะมีการหลอกลวงหรือเทขาย
โทเค็น $THUG จะเปิดตัวใน Decentralized Exchange หลังจากระดมทุนได้ตามเป้าพรีเซลล์
เข้าร่วมกลุ่ม Telegram Thug Life สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับโปรเจกต์
เพดานเงินทุน
$2,058,000
โทเค็นทั้งหมด
4.2 พันล้าน
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์
2.94 พันล้าน
Blockchain
เครือข่าย Ethereum
ประเภทโทเค็น
ERC-20
ซื้อขั้นต่ำ
No Min or Max
วิธีการชำระเงิน
USDT, ETH
Chimpzee – อนุรักษ์โลกและสัตว์ป่าด้วยโทเค็นนี้และรับรายได้
ในขณะที่โปรเจกต์เหรียญคริปโตจำนวนมากกำลังพัฒนาโซลูชั่นทางการเงินที่เป็นนวัตกรรมใหม่ แต่ก็ยังขาดแคลนโซลูชั่นด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ใช้งานได้จริง โชคดีที่เทรนด์ใหม่กำลังเกิดขึ้น ที่จะเข้ามารักษาสิ่งแวดล้อมและป้องกันโลกร้อน
Chimpzee เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ดังกล่าว โดยมุ่งเน้นหลักในการอนุรักษ์โลกและสัตว์ป่า โดยขณะนี้ระดมทุนได้มากกว่า 803,000 ดอลลาร์ในช่วงพรีเซลล์
ทั้งยังมีฟีเจอร์มากมายที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับรายได้แบบพาสซีฟในขณะที่มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันเพื่อสิ่งแวดล้อม ฟีเจอร์เหล่านี้ ได้แก่ Play-to-Earn, Shop-to-Earn และ Trade-to-Earn สามารถเข้าถึงได้ผ่านทางร้านค้า Chimpzee ตลาด NFT และ Zero Tolerance Game
ทีมงานของโปรเจกต์ได้ทุ่มเท 10% ของการจัดหาโทเค็นและส่วนแบ่งของผลกำไรเพื่อสนับสนุนองค์กรที่อุทิศตนเพื่อปัญหาสิ่งแวดล้อมเหล่านี้
การเป็นเจ้าของ Chimpzee Passport ผู้ใช้สามารถสร้างรายได้แบบพาสซีฟที่ให้ผลกำไรสูง โดยได้รับโทเค็น CHMPZ พิเศษผ่านการเข้าร่วมกับฟีเจอร์ต่างๆ ของระบบนิเวศ
Chimpzee จะเปิดตัวแอพพลิเคชันมือถือที่ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อสร้างภาพประจำตัวของ Chimpzee สำหรับผู้ใช้ อวตารเหล่านี้สามารถใช้เพื่อสร้าง Chimpzee Passport NFT ที่โดดเด่น ซึ่งจะมีการแบ่งปันสิทธิประโยชน์บางอย่างแบบเดียวกันกับ Diamond NFT Passport
ในการเข้าร่วมการพรีเซลล์ของ Chimpzee และ Passport สุดพิเศษเหล่านี้ จะมีการแจกจ่ายโทเค็น CHMPZ ทั้งหมด 4 หมื่นล้านรายการในสี่รอบ ราคาสำหรับ 1 CHMPZ ในรอบปัจจุบันคือ $0.00064 และจะเพิ่มเป็น $0.000655 ในไม่ช้า โดยราคาสุดท้ายจะอยู่ที่ $0.00185
การได้มาซึ่ง Chimpzee Diamond Passport NFT ในช่วงพรีเซลล์จะทำให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์สูงสุด เนื่องจากสินค้ามีจำนวนจำกัด ผู้ที่พลาดการพรีเซลล์จะต้องซื้อ Passport ในราคาที่สูงขึ้นและต้องรอจนกว่าจะมีการเปิดตัว สำหรับ Passport NFT ใน Whitelist ซึ่งมีให้สำหรับนักลงทุนพรีเซลล์เท่านั้น
Chimpzee มีศักยภาพที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมและควรค่าแก่การติดตาม การคว้าโอกาสในการเข้าร่วมในช่วงพรีเซลล์แต่เนิ่นๆ มอบผลประโยชน์มากมายที่น่าดึงดูดใจ
สัญลักษณ์โทเค็น
CHMPZ
อุปทานทั้งหมด
200 พันล้าน
อุปทานช่วงพรีเซลล์
40 พันล้าน
เครือข่าย
Ethereum (ERC-20)
วิธีการซื้อ
ETH, USDT, บัตรเครดิต
บทสรุป
บทความนี้ได้วิเคราะห์และจัดอันดับ ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดในตลาดวันนี้
แม้ ETF คริปโตจะได้รับการออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุนอย่างปลอดภัยในตลาด Bitcoin แต่ ETF ส่วนใหญ่ก็ได้รับการสนับสนุนโดยสัญญาซื้อขายฟิวเจอร์ส แทนที่จะเป็นเหรียญคริปโต
ดังนั้นทางเลือกที่ดีกว่าก็คือพรีเซลล์เหรียญคริปโตอย่าง Thug Life เหรียญมีมคริปโตที่กำลังมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยพรีเซลล์ที่ระดมทุนไปแล้วกว่า 1.3 ล้านดอลลาร์
Wall Street Memes เป็นอีกพรีเซลล์ที่ควรพิจารณาด้วยจุดมุ่งหมายในการเปลี่ยนแปลงการขับเคลื่อนให้เป็นโทเค็นคริปโต โดยมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในตลาด พร้อมได้รับแรงบันดาลใจจากช่วงหุ้นขึ้นของ GameStop
Wall Street Memes (WSM) - เหรียญมีมใหม่ล่าสุด
- คอมมูนิตี้ผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน
- เคยสร้างโปรเจกต์ NFT ที่ขายหมดภายใน 32 นาที
- เปิดขายพรีเซลตอนนี้ - wallstreetmemes.com
- ระดมไปกว่า 26 ล้าน USD ภายใน 13 วีค