แม้ว่ารัฐบาลจีนจะมีท่าทีแข็งกร้าวต่อเหรียญคริปโตในอดีต โดยเฉพาะกับเหรียญ ICO และการขุด แต่จีนก็ยังถือเป็นแหล่งซื้อขายที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดในโลก
ในบทความนี้ เราจะอธิบายเหรียญคริปโตจีนที่ดีที่สุดในตลาด พร้อมนำเสนอข้อมูลเชิงลึกว่าจีนเป็นอย่างไรในเวทีสินทรัพย์ Blockchain ระดับโลก
จัดอันดับ 10 เหรียญคริปโตจีนในปี 2024
ด้านล่างคือ 10 เหรียญคริปโตของจีนที่ดีที่สุดที่ควรพิจารณาในวันนี้:
- Wall Street Memes – เหรียญมีมมาใหม่ที่มีต้นกำเนิดมาจากชุมชน Wall Street Bets Reddit ที่พัฒนาโดยผู้พัฒนามากฝีมือของโปรเจกต์ Wall St Bulls NFT เมื่อปี 2021 โดยในตอนนี้ก็กลายเป็นโปรเจกต์มีมชั้นนำที่มียอดผู้ติดตามบนโซเชียลรวมกว่า 1 ล้านคน พร้อมระดมทุนได้กว่า 20 ล้านดอลลาร์ในเวลาไม่นาน
- Launchpad XYZ – แพลตฟอร์มที่ให้เข้าถึง ICO สุดพิเศษ, การเปิดตัว NFT, สินทรัพย์แบบสัดส่วน, และเกม Play to Earn โหมดเบต้า เป็นโอกาสพิเศษในการใช้ประโยชน์จากช่องทางการลงทุนที่ให้ผลกำไร
- BNB – โทเค็นระบบนิเวศที่รองรับเหรียญคริปโตทั่วโลกมากที่สุด
- Bitcoin – คริปโตเคอเรนซี่ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในประเทศจีน
- NEO – โปรเจกต์สัญญาอัจฉริยะยอดนิยมจากจีน
- Huobi Token – โทเค็นสำหรับกระดานเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
- Ethereum – โปรเจกต์ขนาดใหญ่ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงในประเทศจีน
- OKB – เหรียญคริปโตที่ได้รับการสนับสนุนโดยกระดานเทรด OKX
- Dogecoin – เหรียญทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับนักขุดชาวจีน
ไปยังเหรียญคริปโตจีนที่ดีที่สุด
เจาะลึกกับเหรียญคริปโตหยวนที่ดีที่สุด
บางโปรเจกต์คริปโตจีนก็ตั้งสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคที่เข้าถึง Blockchain ได้มากขึ้น แต่ประเทศจีนก็ยังคงสร้างปริมาณการซื้อขายเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ได้จำนวนมาก
ด้านล่าง เราจะพูดถึงบางโปรเจกต์คริปโตจีน ทั้งในด้านความนิยมในจีนหรือการมีต้นกำเนิดในประเทศเอง
1. Wall Street Memes – เหรียญที่กำลังมาแรงในตอนนี้ พร้อมผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคนและมียอดระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์ในเวลาไม่นาน
Wall Street Memes ถือเป็นเหรียญมีมที่กำลังมาแรงในปัจจุบันที่แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเหรียญคริปโตจีนโดยตรง แต่ก็ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายและสมควรถูกจัดให้มาอยู่ในอันดับหนึ่งของเรา ด้วยทีมพัฒนามากฝีมือที่เคยฝากผลงานไว้กับคอลเล็กชัน Wall St Bulls NFT เมื่อปี 2021 โดยขายหมดในเวลาเพียง 30 นาที ทำกำไรไปได้กว่า 2.5 ล้านดอลลาร์ในตอนนั้น
ตอนนี้ Wall Street Memes กำลังดำเนินมาจนใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว มียอดระดมทุนที่ 21 ล้านดอลลาร์
ทีมงานโปรเจกต์ยังเป็นที่พูดถึงเป็นวงกว้าง ด้วยความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพที่เคยประสบความสำเร็จมาจากการเปิดตัว NFT และยังมี Twitter และโซเชียลมากมายที่คอยทำให้ชุมชนคึกคักตลอดเวลา
ปัจจุบัน ทางโปรเจกต์มียอดผู้ติดตามรวมแล้วกว่า 1 ล้านคน และยังเป็นไม่กี่โปรเจกต์ที่เจ้าพ่อคริปโตอย่าง Elon Musk พูดถึงและให้ความสนใจผ่านการรีทวีตโพสต์ของโปรเจกต์อีกด้วย
เว็บไซต์ของ Wall Street Memes มีการระบุไว้ว่าจะเปลี่ยน ‘แรงขับเคลื่อนให้กลายเป็นโทเค็น’ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์การเคลื่อนไหว Wall Street Bets ที่เป็นการรวมตัวกันของนักลงทุนรายย่อยเพื่อทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นสูงอย่างไม่คาดคิด และกุมชัยชนะเหนือนักลงทุนสถาบัน
โดยโทเค็น Wall Street Memes ก็มีจุดมุ่งหมายที่จะทำได้แบบเดียวกันและเพิ่มโอกาสให้ชุมชนได้ “ร่ำรวยด้วยเหรียญมีมที่ไร้ค่า”
โดยทางทีมงานได้จัดสรรเหรียญทั้งหมดไว้ให้กับชุมชนที่ 100% แล้วจะไม่มีการเก็บเหรียญไว้ให้กับทางทีมงานเองแต่อย่างใด ซึ่ง 50% ของเหรียญจะทำการเปิดขายในช่วงพรีเซลล์ ส่วนที่เหลืออีก 50% จะใช้เพื่อเป็นรางวัลชุมชนและสภาพคล่องของกระดานเทรด
โดยตอนนี้ ทางทีมงานก็ไม่รีรอที่จะจัดกิจกรรมแจกเหรียญ $WSM มูลค่า 50,000 ดอลลาร์ โดยจะแบ่งแจกให้กับผู้ชนะ 5 คนที่สามารถทำภารกิจทางโซเชียลง่ายๆ ได้สำเร็จ ใครที่สนใจก็สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมแจกเหรียญดังกล่าวได้ผ่าน Wall Street Memes Discord
โปรเจกต์ยังเปิดตัว Bitcoin Ordinals NFT จำนวน 420 รายการ เพื่อเน้นยำถึงความเชี่ยวชาญในวงการคริปโตและการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาของทีมงานเพื่อคงให้กระแส Wall Street Memes อยู่ต่อไปในระยะยาว
ด้วยผู้ติดตามโซเชียลมีเดียหนึ่งล้านคนและ NFT ทั้งหมดที่ 420 รายการ ก็จะเป็นการเพิ่มอุปทานและลดอุปสงค์ลงไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยใครที่พลาดโอกาสซื้อ NFT ดังกล่าวก็สามารถซื้อ $WSM แทนได้นั่นเอง
ไปยัง Telegram เพื่ออ่านข่าวสารและการประกาศล่าสุดของโปรเจกต์ Wall Street Memes
เพดานเงินทุน | $30,577,000 |
โทเค็นทั้งหมด | 2 พันล้าน |
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์ | 1 พันล้าน |
Blockchain | เครือข่าย Ethereum |
ประเภทโทเค็น | ERC-20 |
ซื้อขั้นต่ำ | 100 โทเค็น |
วิธีการชำระเงิน | USDT, ETH |
ไปยัง Wall Street Memes ตอนนี้
2. Launchpad XYZ – แพลตฟอร์มที่ให้สิทธิพิเศษที่ให้โอกาสการลงทุนที่จะทำให้ร่ำรวย
แม้ว่าจะไม่ใช่เหรียญคริปโตจีน แต่ Launchpad XYZ ก็เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่มีโอกาสเติบโตที่มีเป้าหมายในการให้ข้อมูลแก่นักลงทุนในการตัดสินใจในตลาด Web 3.0 โดยจะให้บริการแดชบอร์ดสุดล้ำที่นำเสนอข้อมูลที่ก้าวล้ำแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น ความเชื่อมั่นของตลาดในเหรียญต่างๆ
ในช่วง Pre-sale ราคาโทเค็นหลัก LPX เปิดขายที่ราคา $0.0445 USDT และราคาลิสต์ที่ $0.07 USDT โดยนักลงทุนจะสามารถอ่านวิธีซื้อ Launchpad XYZ แบบละเอียดของเราได้
และจะได้ศึกษาว่าพวก “วาฬ” กำลังให้ความสนใจกับอะไร ด้วยข้อมูลเชิงลึกจาก Launchpad XYZ ที่ได้รับการสนับสนุนโดยนักลงทุนและนักวิเคราะห์คริปโตชั้นแนวหน้าแห่งวงการ
และยังให้คำแนะนำผู้ใช้ในการตัดสินเทรดมากกว่าการพึ่งพาคำแนะนำจากผู้ใช้อื่น โดย Launchpad XYZ จะแจงเตือนเหรียญคริปโต Pre-sale, การสร้าง NFT, เกม Play to Earn มาใหม่, และข้อมูลที่จำเป็นของแต่ละโปรเจกต์
โดยผู้ใช้จะได้ลงมือเทรดเองโดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม ด้วยกระดานเทรด DEX ที่กำลังได้รับการพัฒนา ซึ่งจะมาเสริมความมั่นคงให้กับเป้าหมายของ Launchpad XYZ เพื่อให้บริการร้านค้า Web 3.0 แบบครบวงจรให้กับคอมมิวนิตี้
แพลตฟอร์มจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ซื้อ LPX ได้ในราคาที่ถูกกว่าราคาลิสต์ลง DEX และ CEX โดยแม้จะกอย่างะโปร่งใซึ่เสี่ยงไปบ้าง แต่ Altcoin อย่าง Tamadoge ก็ได้สร้างผลตอบแทนอย่างมีนัยสำคัญและทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ควรพิจารณาหากใครอยากกระจายความเสี่ยง
โทเค็นหลักอย่าง LPX จะมีกรณีการใช้งานมากมาย โดยการ Staking LPX อย่างต่ำที่ 10,000 เหรียญจะได้สิทธิ์พิเศษในการเข้าถึงฟีเจอร์ระดับพรีเมียม เช่น การลดค่าคอมมิชชั่นบน Launchpad XYZ DEX, การเข้าถึง NFT และ Private Pre-sale ใหม่ๆ, และการเข้าถึงเกม Play to Earn ในโหมดทดลอง
ซึ่งต้อง Stake LPX ขั้นต่ำ 10,000 เหรียญเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งแสดงถึงยูทิลิตี้ในโลกจริงของโทเค็น
ข้อมูลแบบละเอียดที่เข้าใจไม่ยากของ Launchpad XYZ จะช่วยให้นักลงทุนมือใหม่และมือเก๋าได้เข้าสู่การลงทุนใน Web 3.0 และ Utility Token ด้วยข้อมูลที่เชื่อถือได้, ข้อมูลเชิงลึก, อารมณ์ตลาด, สภาพคล่อง, ตัวชี้วัด, และโอกาสเก็งกำไร
Launchpad XYZ ยังให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์สำหรับการลงทุน Web 3.0 มาใหม่ เพื่อให้ผู้ใช้ได้เจอโปรเจกต์และไอเดียใหม่ๆ ก่อนเปิดตัวในตลาด
ใครสนใจก็สามารถเข้าช่อง Launchpad XYZ Telegram เพื่อรับข้อมูลล่าสุด
เพดานเงินทุน | $12,500,000 |
โทเค็นทั้งหมด | 1 พันล้าน |
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์ | 250 ล้าน |
Blockchain | เครือข่าย Ethereum |
ประเภทโทเค็น | ERC-20 |
ซื้อขั้นต่ำ | 100 โทเค็น |
ซื้อด้วย | USDT, ETH, BNB, บัตรเครดิต |
3. BNB – โทเค็นระบบนิเวศที่รองรับเหรียญคริปโตทั่วโลกมากที่สุด
Binance เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตจีนที่ดีที่สุดตลอดกาล โดยเปิดตัวในปี 2017 พร้อมกันกับเหรียญคริปโตหลักอย่าง Binance โดยทางแพลตฟอร์มมีปริมาณการซื้อขายรายวันมูลค่ากว่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ณ ขณะที่เขียนบทความ มีเหรียญคริปโตมูลค่ารวมมากกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ได้ถูกซื้อขายบนกระดานเทรด Binance
นอกจาก Binance แล้ว อีกหนึ่งกระดานเทรดคู่แข่งก็คือ FTX ซึ่งมีมูลค่าเพียง 2 พันล้านดอลลาร์ โดย Binance ได้สร้างและเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งรวมถึงตลาดเลเวอเรจตราสารอนุพันธ์ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์และสินเชื่อคริปโต, Staking, Yield Farming, และอื่นๆ นอกจากนี้ Binance ยังได้สร้างเครือข่าย Blockchain ของตัวเองในชื่อ BSC
ด้วยโทเค็นกว่าหลายพันสกุลที่เปิดตัวบนเครือข่าย BSC หลายคนจึงเชื่อว่าวันหนึ่ง Binance สามารถแข่งขันคู่กับ Ethereum และตลาด ERC-20 ได้ โดยหัวใจหลักที่แพลตฟอร์มใช้ในการขับเคลื่อนก็คือ BNB เหรียญคริปโตที่ใช้งานได้จริงและยังจำเป็นต่อการแลกเปลี่ยนโทเค็น BSC หรือลดค่าคอมมิชชันบน Binance ลง
เมื่อราคา BNB ถึงจุดสูงสุดในปลายปี 2021 – ก่อนช่วงที่ตลาดคริปโตจะเป็นขาลง เหรียญได้มีมูลค่าตลาดเกิน 100 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับมูลค่าตอนที่เปิดตัวในช่วงปลายปี 2017 ซึ่งแสดงถึงการเติบโตมากกว่า 600,000% เหรียญ BNB จึงอาจถือเป็นการลงทุนในราคาที่ถูกลงเกือบ 58% เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ที่ 670 ดอลลาร์
การลงทุนมีความเสี่ยงและสินทรัพย์เหรียญคริปโตมีความผันผวนสูง
4. Bitcoin – คริปโตเคอเรนซี่ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในประเทศจีน
แม้ว่าการซื้อขายเหรียญคริปโตจะถูกห้ามอย่างเป็นทางการในจีนตั้งแต่ปี 2019 แต่จีนก็ยังเป็นประเทศที่มีปริมาณการซื้อขายสูง โดยเหรียญชั้นนำก็คือ Bitcoin ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในประเทศจีน โดย Bitcoin เปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 เพื่อแข่งขันกับระบบชำระเงินแบบพื้นฐานการทั่วโลก
พร้อมให้ผู้ใช้จากทั่วทุกมุมโลกสามารถส่งและรับเงินโดยไม่ต้องผ่านบุคคลที่สาม และไม่มีบุคคลใดหรือหน่วยงานใดเป็นเจ้าของหรือควบคุมเครือข่าย ยิ่งไปกว่านั้น Bitcoin ยังถูกมองว่าเป็นตัวเก็บมูลค่าจากประชากรชาวจีน โดยมีจำนวนเหรียญทั้งหมดจำกัดเพียง 21 ล้าน BTC และจะไม่มีการสร้างโทเค็นอีกต่อไปเมื่อถึงเหรียญถึงระดับเพดานดังกล่าว
สิ่งนี้ทำให้บิทคอยน์น่าสนใจในฐานะผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีความคล้ายกับทองคำ เหมือนอีกชื่อของ Bitcoin ที่มักจะถูกเรียกอีกอย่างว่าทองคำดิจิทัล อย่างไรก็ตาม Bitcoin สามารถแยกสัดส่วนเป็นหน่วยเล็กๆ ได้อย่างง่ายดายและโอนจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งในเวลาไม่ถึง 10 นาที ซึ่งแตกต่างจากทองคำ
Bitcoin ยังเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตจีนที่ดีที่สุดในแง่ของประสิทธิภาพที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เช่น เมื่อปี 2011 เหรียญ Bitcoin มีมูลค่าแตะได้แค่ 1 ดอลลาร์ โดยคนที่ตัดสินใจเสียงลงทุน 100 ดอลลาร์ในตอนนั้น พอร์ตการลงทุนในปัจจุบันก็คงจะมีมูลค่ามากกว่า 2 ล้านดอลลาร์เข้าไปแล้ว
การลงทุนมีความเสี่ยงและสินทรัพย์เหรียญคริปโตมีความผันผวนสูง
5. NEO – โปรเจกต์สัญญาอัจฉริยะยอดนิยมจากจีน
NEO เปิดตัวในปี 2014 และเป็นโปรเจกต์เหรียญคริปโตจีนที่สนับสนุนข้อตกลงสัญญาอัจฉริยะ สิ่งนี้ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอพและโปรแกรมแบบกระจายอำนาจได้ โดยที่การทำธุรกรรมจะดำเนินการอย่างอิสระ ซึ่งหลายคนมักมองว่าเป็น ‘Ethereum Killer’ โดยมีรายงานว่า NEO สามารถรองรับธุรกรรมได้มากถึง 10,000 ธุรกรรมต่อวินาที
ค่าธรรมเนียมก็ถูกลงด้วยเช่นกัน โดยคิดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเฉลี่ยที่ 0.10 ดอลลาร์ ทั้งยังไม่คำนึงถึงจำนวนเงินที่โอน สิ่งนี้ตรงกันข้ามกับการทำงานของ Ethereum ในปัจจุบันซึ่งมักจะเรียกเก็บเงินหลายดอลลาร์ต่อธุรกรรม อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมจะต้องจ่ายด้วยเหรียญรองของโปรเจกต์อย่าง GAS
อย่างไรก็ตาม โทเค็นหลักที่สนับสนุนโปรเจกต์นั้นจะใช้ NEO โดยเมื่อพูดถึงประสิทธิภาพของโทเค็น NEO โปรเจกต์ได้เริ่มทำกำไรได้มากกว่า 47,000% ในช่วงสองสามปีแรกในตลาด อย่างไรก็ตาม หลังจากจุดสูงสุดในปี 2018 โทเค็น NEO ก็ยังไม่ฟื้นคืนสู่จุด All Time High ก่อนหน้านี้แต่อย่างใด
การลงทุนมีความเสี่ยงและสินทรัพย์เหรียญคริปโตมีความผันผวนสูง
6. Huobi Token – โทเค็นสำหรับกระดานเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
Huobi เป็นหนึ่งในกระดานเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลกและเป็นหนึ่งในกระดานที่ให้บริการลูกค้าในเอเชียที่ใหญ่ที่สุด กระดานเทรดดังกล่าวก่อตั้งขึ้นและให้บริการครั้งแรกในประเทศจีนก่อนที่จะย้ายสำนักงานไปต่างประเทศ นี่เป็นการโต้กลับอย่างยิงใหญ่ต่อการห้ามกิจกรรมการซื้อขายเหรียญคริปโตของรัฐบาลจีน
อย่างไรก็ตาม Huobi Token ซึ่งสนับสนุนกระดานเทรดในชื่อเดียวกันก็ยังคงเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตจีนที่น่าลงทุนมากที่สุด โดยมีกรณีการใช้งานที่หลากหลายสำหรับผู้ถือโทเค็น รวมถึงค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ลดลงในกระดานเทรด Huobi ส่วนผู้ที่ต้องการเข้าถึงอนุพันธ์ของคริปโต เช่น ฟิวเจอร์สและออปชั่น ก็สามารถทำได้ผ่าน Huobi Token
นี่เป็นเพราะทางกระดานเทรดรองรับตลาดอนุพันธ์ในคู่ที่สนับสนุนโดย Huobi ซึ่งทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกเข้าถึงได้มากขึ้น Huobi Token ถูกลิสต์เข้ากระดานเทรดอีกกว่าหลายสิบแห่ง ซึ่งหลายแห่งตั้งอยู่ในเอเชียและให้บริการแก่นักเทรดในเอเชีย ในขณะที่เขียน Huobi Token กำลังซื้อขายที่ราคาถูกลงกว่า 75% เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์
การลงทุนมีความเสี่ยงและสินทรัพย์เหรียญคริปโตมีความผันผวนสูง
7. Ethereum – โปรเจกต์ขนาดใหญ่ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงในประเทศจีน
แม้ว่า NEO จะเป็นแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะที่สร้างขึ้นในจีน แต่ Ethereum ก็ยังคงครองตลาดนี้อยู่ แม้กระทั่งในประเทศจีนเอง โดยในตอนนี้ก็มีร้านรับชําระเงินด้วย Ethereum มากมายที่รองรับเหรียญดังกล่าว ทั้งยังถือเป็นเหรียญคริปโตที่มีการซื้อขายมากที่สุดในประเทศจีน แสดงให้เห็นถึงปริมาณการซื้อขายของ Ethereum ในฐานะตัวเลือก Blockchain ของสัญญาอัจฉริยะที่น่าใช้งาน
สิ่งนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ด้วยเหตุผลมากมาย โดย Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับโทเค็น ERC-20 หลายพันสกุล ซึ่งหลายเหรียญก็มีมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่าพันล้านดอลลาร์ โดยโปรเจกต์ที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุดบน Ethereum Blockchain ได้แก่ Decentraland, Shiba Inu, AAVE, Uniswap, และ Sandbox
โทเค็น ETH ได้รับการสนับสนุนโดย Ethereum Blockchain และเป็นเหรียญคริปโตที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในแง่ของมูลค่าเหรียญ โดยโทเค็น ERC-20 แต่ละสกุลบน Ethereum จะต้องมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต้องชำระเป็น ETH ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าเหรียญ Ethereum จะยังคงเป็นที่ต้องการต่อไป
นอกจากนี้ Ethereum ยังอยู่ในขั้นตอนการอัพเกรดเป็นกลไกใหม่ ซึ่งก็คือกลไก Proof of Stake ซึ่งจะทำให้ระบบนิเวศ Blockchain มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่เพียงแต่ในแง่ของการใช้พลังงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำธุรกรรมที่ขยายเครือข่ายได้มากขึ้นและมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า แม้ว่าการย้ายจากระบบ Proof of Stake จะอยู่ในการพัฒนามาหลายปีแล้ว แต่คาดกันว่าจะแล้วเสร็จในปี 2022
การลงทุนมีความเสี่ยงและสินทรัพย์เหรียญคริปโตมีความผันผวนสูง
8. OKB – เหรียญคริปโตที่ได้รับการสนับสนุนโดยกระดานเทรด OKX
OKX คือกระดานเทรดคริปโตหรือที่เรียกเคยเรียกว่า OKEx นี่เป็นกระดานเทรดที่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศจีน แต่หลังจากนั้นได้ย้ายการบริการไปต่างประเทศเช่นเดียวกับแพลตฟอร์มในประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่ในตลาด โดย OKX เป็นกระดานเทรด 20 อันดับแรกในแง่ของปริมาณการซื้อขายและฐานลูกค้าจำนวนมากที่มาจากเอเชีย
นอกเหนือจากตลาดสปอตแล้ว OKX ยังรองรับอนุพันธ์ของคริปโต เช่น สัญญาแลกเปลี่ยนถาวรและสัญญาซื้อขายล่วงหน้า OKX ยังมีเหรียญคริปโตอย่าง OKB ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล 50 อันดับแรกที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในขณะที่เขียนบทความ โดยโทเค็น OKB เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2019 ในราคาเพียง $1.60 เท่านั้น
ในขณะที่เขียนบทความ OKB กำลังซื้อขายสูงกว่าราคาจดลิสต์ลงกระดานเทรดมากกว่า 1,000% อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับระดับ All Time High ที่ $42 ซึ่ง OKB เคยทำได้เมื่อปี 2021 จึงถือว่าเหรียญมีราคาลดลงถึง 57%
การลงทุนมีความเสี่ยงและสินทรัพย์เหรียญคริปโตมีความผันผวนสูง
9. Dogecoin – เหรียญทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับนักขุดชาวจีน
แม้ว่าการขุดเหรียญคริปโตจะถูกแบนในประเทศจีน แต่ถึงอย่างนั้น ประเทศก็ยังมีช่องโหว่ให้ขุดได้อยู่ โดยนักขุดจำนวนมากได้เลิกสนใจ Bitcoin และย้ายไปขุดเหรียญที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทน เช่น Dogecoin โดยเหรียญมีมดังกล่าวจะสามารถขุดได้ด้วยฮาร์ดแวร์ที่ไม่ซับซ้อนและมีระดับการใช้พลังงานที่ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้มากยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้ Dogecoin จึงเป็นที่นิยมในประเทศจีนด้วยเหตุผลด้านการทำกำไร นอกจากการได้รับการสนับสนุนโดย Elon Musk และ Tesla แล้ว Dogecoin ยังมีผู้ติดตามบนโซเชียลจำนวนมาก โดยเฉพาะจากฟอรัม Reddit ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงคาดว่า Dogecoin มีโอกาสที่จะฟื้นตัวจากที่ $0.74 เมื่อช่วงตลาดขาลงสิ้นสุด
การลงทุนมีความเสี่ยงและสินทรัพย์เหรียญคริปโตมีความผันผวนสูง
ประวัติเหรียญคริปโตของจีน
ความสัมพันธ์ของจีนกับเหรียญคริปโตและBblockchain นั้นจะแกว่งไปแกว่งมา ในช่วงปีแรกๆ จีน – อย่างน้อยก็ในแง่ของผู้บริโภค ยอมรับสกุลเงินดิจิทัลเป็นส่วนใหญ่
- โดยมีหนึ่งในกระดานเทรดของตลาดจีนคือ BTC China
- ต่อมา บริษัทอย่าง OKX, Huobi และ Binance ก็เปิดตัวกระดานเทรดของตน
- ประเทศจีนยังมีบทบาทสำคัญในการขุดเหรียญคริปโต โดยเฉพาะ Bitcoin และเมื่อย้อนกลับไปในปี 2013
- ผู้ให้บริการเสิร์ชเอ็นจิ้นชั้นนำของจีน – Baidu เริ่มยอมรับการชำระเงินด้วย Bitcoin แล้ว
แต่ในปี 2017 รัฐบาลจีนตัดสินใจที่จะเข้าสู่ตลาด
โดยรัฐได้ทำการห้ามเหรียญ ICO ในช่วงปลายปี 2017 อย่างเป็นทางการ เนื่องจากมีการระดมทุนหลายพันล้านดอลลาร์จากโปรเจกต์ใหม่ๆ มากมาย
จากนั้นในปี 2021 รัฐบาลจีนก็ได้ห้ามการขุดเหรียญคริปโตในประเทศ โดยแม้ว่ารัฐจะมีท่าทีต่อต้านเหรียญคริปโต แต่จีนก็ยังคงเป็นแหล่งเทรดที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดในโลก
ยิ่งไปกว่านั้น โปรเจกต์คริปโตของจีนบางส่วนยังคงมั่นคง แม้จะดำเนินงานในต่างประเทศก็ตาม ซึ่งรวมถึง Binance, OKX, Huobi และ NEO
ข่าวสารด้านกฎระเบียบเหรียญคริปโตของจีน
ล่าสุด บริษัทคริปโตของจีนกำลังเปิดตัวในสิงคโปร์ที่มีกฎระเบียบที่เหมาะกับเหรียญคริปโตมากขึ้น ทั้งภาษาจีนกลางที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศ
ธนาคารกลางของสิงคโปร์ Monetary Authority of Singapore (MAS) ระบุว่าสิงคโปร์มีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีชั้นนำในเอเชีย และยินดีต้อนรับบริษัทจีน
เหรียญคริปโตหยวนเป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?
ใครสงสัยว่าเหรียญคริปโตจีนน่าซื้อหรือไม่ ก็ควรเข้าใจว่าการใช้ข้อมูลเชิงลึกประกอบการพิจารณานั้นสำคัญ
โดยด้านล่างนี้เราจะพูดถึงประโยชน์หลักๆ ของการลงทุนในเหรียญคริปโตของจีน
ตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่
ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนคือประเทศจีนเป็นที่ตั้งของตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ที่มีประชากรมากกว่า 1.4 พันล้านคน
ซึ่งหมายความว่าหากโปรเจกต์ได้รับการรับรองจากรัฐบาล นี่อาจเปิดโอกาสสร้างผลกำไรให้กับสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวได้มาก
ดิจิทัลหยวน
นับตั้งแต่เปิดตัวดิจิทัลหยวนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางจีน โอกาสที่โปรเจกต์คริปโคในประเทศจะประสบความสำเร็จนั้นอาจค่อนข้างจำกัด
โดยพื้นฐานแล้ว ดิจิตอลหยวนเป็นสกุลเงินในประเทศในรูปแบบโทเค็นและให้ชำระเงินแทนเงินสดได้ โดยมีการดำเนินการทดลองในเมืองต่างๆ ของจีน โดยโทเค็นมีการแลกเปลี่ยนเป็นมูลค่ากว่าหลายพันล้านดอลลาร์
เหรียญคริปโตระดับโลกยังเป็นผู้นำในตลาด
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้คือตลาดผู้บริโภคชาวจีนยังคงสนใจโปรเจกต์จากต่างประเทศมากกว่า ตัวอย่างเช่น สินทรัพย์ดิจิทัลสองสกุลที่มีการซื้อขายมากที่สุดในชิบะคือ Bitcoin และ Ethereum – ด้วยจำนวนการซื้อขายที่มาก
สิ่งนี้เสนอตลาดในประเทศเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินหยวนที่ผันผวนตลอดเวลา
พิจารณาโปรเจกต์ Pre-sale
อาจจะคุ้มค่าที่จะสำรวจว่ามี Pre-sale ใดที่โดดเด่นใดบ้าง ซึ่งเป็นโอกาสซื้อเหรียญคริปโตมาใหม่ก่อนที่จะลิสต์ลงกระดานเทรด
โดยเราจะอธิบายขั้นตอนการลงทุนในช่วง Pre-sale ของ Wall Street Memes (WSM)
วิธีซื้อเหรียญ Wall Street Memes
เข้าร่วม Wall Street Memes Presale โดยทำตามขั้นตอนด้านล่าง:
- ขั้นที่ 1 – ติดตั้ง Crypto Wallet: นักลงทุนจะต้องมี MetaMask หรือ Wallet Connect
- ขั้นที่ 2 – ซื้อ ETH หรือ USDT: นักลงทุนจำเป็นต้องซื้อ ETH หรือ USDT และถือไว้ใน Wallet ซึ่งทำบนกระดานเทรดหรือบนเว็บไซต์ Wall Street Memes
- ขั้นที่ 3 – เชื่อมต่อ Wallet กับ Presale: ไปที่หน้า Wall Street Memes Presale คลิกที่ ‘Buy Now’ และเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มด้วย Crypto Wallet
- ขั้นที่ 4 – ซื้อโทเค็น $WSM: ให้คลิกที่ ‘Buy AI with ETH/USDT/BNB’ ป้อนจำนวน (ขั้นต่ำ 10 โทเค็น) และคลิกที่ ‘Convert’
- ขั้นที่ 5 – รับโทเค็น $WSM: สามารถรับ $WSM ได้เมื่อ Pre-sale เสร็จสิ้น โดยเหรียญจะถูกเก็บไว้ในเว็บไซต์ Wall Street Memes
ไปยัง Wall Street Memes ตอนนี้
บทสรุป
แม้ว่าจีนจะสั่งห้ามกิจกรรมที่เกี่ยวกับเหรียญคริปโตในตลาดภายในประเทศ แต่ประเทศก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในวงการอยู่
เหรียญคริปโตจีนที่ดีที่สุดที่ควรลงทุนคือ WSM และ CHMPZ ซึ่งยังคงมั่นคงแม้ว่าจะเป็นเหรียญคริปโตจากต่างประเทศก็ตาม
รัฐบาลจีนได้เปิดตัวเหรียญคริปโตของตนเองอย่าง Digital Yuan ซึ่งอาจทำให้สตาร์ทอัพ Blockchain ในจีนจำนวนมากหยุดเติบโต
แต่นักลงทุนชาวจีนก็มีทางเลือกอื่นอย่างเหรียญคริปโต Pre-sale ปัจจุบันทั้ง Wall Street Memes กำลังสร้างระบบนิเวศที่น่าตื่นเต้นซึ่งรวมถึงโทเค็น, การเป็นเจ้าของ NFT, และการขับเคลื่อนชุมชนด้วยมีม
Wall Street Memes (WSM) - เหรียญมีมใหม่ล่าสุด
- คอมมูนิตี้ผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน
- เคยสร้างโปรเจกต์ NFT ที่ขายหมดภายใน 32 นาที
- เปิดขายพรีเซลตอนนี้ - wallstreetmemes.com
- ระดมไปกว่า 26 ล้าน USD ภายใน 13 วีค